วันนี้ (20 ก.ค.2563) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 ไทยพบผู้ติดเชื้อใหม่ 1 คน ใน State Quarantine รวม 3,250 คน หายป่วย 3,096 คน และรักษาในโรงพยาบาล 96 คน และยอดผู้เสียชีวิตคงที่ 58 คน อย่างไรก็ตาม ตอนนี้อย่าไปคาดหวังตัวเลขเป็น ศูนย์เราจะไม่พูดคำว่าศูนย์เป็นวันที่เท่าไหร่ แต่เราจะร่วมกันสู้กับโรคติดต่อ และรับมือให้ได้
โดยผู้ป่วย 1 คน อาชีพ 52 ปี ช่างไฟฟ้า เดินทางกลับจากสิงคโปร์ กลับมาถึงประเทศไทย 6 ก.ค.ที่ผ่านมาและเป็นเที่ยวบินเดียวกลับที่เคยมีรายงาน 1 คนก่อนหน้า และรายนี้ตรวจพบว่าติดเชื้อ COVID-19 ในวันที่ 17 ก.ค.หลังจากเข้าพักใน State Quarantine ในกทม.เป็นวันที่ 11 แล้ว
สำหรับ State Quarantine ยอดคัดกรองสะสม 60,895 คน กลับบ้านแล้ว 52,522 คน พบติดเชื้อสะสม 313 คน รักษาหายแล้ว 217 คน ส่วนผู้ที่เดินทางกลับจากสิงคโปร์ มาไทยจำนวนทั้งหมด 1,618 คน พบติดเชื้อ 5 คนหรือคิดเป็นอัตรา 0.31%
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สำหรับผลการตรวจเชื้อประชาชนใน จ.ระยอง 6,501 ระยอง ส่วน กทม.364 คน รวมทั้งหมด 6,865 คนไม่พบเชื้อ ส่วนการเดินทางเข้าไทยต้องแจ้งว่า ต้องลงทะเบียน มีเอกสารประกอบ และการตรวจเชื้อ COVID-19 นอกจากจะต้องดูคิวที่ลงทะเบียน อาจต้องดูว่ามีเครื่องบินเข้าประเทศนั้นๆ หรือไม่ โดยต้องบริหารจัดการผ่านสถานทูตฯ ซึ่งจากสถิติที่บินเข้าไทยยังเหลือโควตาที่ไม่ครบ 600 คนอยู่ อีกทั้งโรงแรม State Quarantine ยังมีเหลืออยู่ด้วย
"ญี่ปุ่น-ฮ่องกง"ยังน่าห่วงระบาดระลอก2
ขณะที่สถานการณ์โลกในวันนี้ มีผู้ติดเชื้อจำนวน 14,641,819 คน เพิ่มวันเดียว 217,312 คน รักษาหายแล้ว 8,735,1458 คน เสียชีวิต 608,902 คน สหรัฐอเมริกา ยังมีป่วยมากสุด 3,898,550 คน รองลงมาคือ บราซิล อินเดีย รัสเซีย และแอฟริกาใต้ โดยอินเดีย ยังคงมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง วันนี้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ทะลุ 40,000 คนซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดนับจากที่เคยรายงานมา โดยยอดผู้ติดเชื้อสะสมของอินเดีย ขณะนี้อยู่ที่ 1,118,107 คนแล้ว
ส่วนที่ฮ่องกง มีการรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ของการระบาดระลอก 2 เกิน 100 คน ซึ่งนับว่าสูงกว่าการรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่สูงที่สุดของการระบาดระลอกแรกแล้ว จากที่เคยรายงาน 82 คนเมื่อ 29 มี.ค.ที่ผ่านมา เช่นเดียวกับที่ประเทศญี่ปุ่น มีการรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ของการระบาดระลอก 2 เกิน 500 รายติดต่อกันเป็นวันที่ 3 แล้ว ซึ่งถือว่าเริ่มมีแนวโน้มที่ใกล้เคียงกับยอดผู้ติดเชื้อสูงที่สุดของการระบาดระลอกแรกที่ 743 คนเมื่อวันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา
สถานการณ์ในอินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ยังคงต้องติดตามอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะฟิลิปปินส์ มีการรายงานยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เกิน 2,000 คนเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันแล้ว
รอเคาะเฟส 6 วันที่ 22 ก.ค.นี้
โฆษกศบค.กล่าวอีกว่า ส่วนผู้ที่เดินทางจากต่างประเทศกลับไทยจากวันนี้ถึง 27 ก.ค.นี้จะมีผู้เดินทางจากหลายประเทศส่วนเที่ยวบินนำคนไทยตกค้างกลับประเทศ วันนี้จะมีเที่ยวบินจากเดนมาร์กมา 49 คน รัสเซีย 37 คน อินโดนีเซีย 196 คน สหรัฐฯ 47 คน อังกฤษ 301 คน ส่วนในวันพรุ่งนี้จะมีเที่ยวบินมาจากไต้หวัน 200 คน ภูฏาน 2 คน ไต้หวัน 200 คน แคนาดา 50 คน และจีน 64 คน
ส่วนการใช้งานแพลตฟอร์มไทยชนะ มีผู้ใช้งานแล้ว 37,654,244 คน กิจการ ร้านค้าลงทะเบียน 275,795 แห่ง เช็กอินผ่านแพลตฟอร์มแล้ว 96.1% และผ่านแอปพลิเคชัน 3.9% และยอดดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน 789,492 คน
ส่วนผลการประชุม ศบค.ชุดเล็ก นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ยังมีการประชุมไม่แล้วเสร็จ แต่มีการนัดประชุมศบค.ชุดใหญ่วันที่ 22 ก.ค.นี้ และจะมีแถลงมติต่างๆอย่างละเอียด ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะมีมติออกมา
เฟส 6 จะมีการพิจารณาการอนุญาต 4 กลุ่ม อนุญาตให้ชาวต่างชาติจัดแสดงสินค้า ซึ่งจะเป็นประเด็นที่ทำให้เกิดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ในกลุ่มคนจำนวนไม่มาก และมีการกำหนดขอบเขตพื้นที่ วัน-เวลาที่ชัดเจน
นิวยอร์กไทม์ชมไทยประสบความสำเร็จ
โฆษกศบค.กล่าวว่า กลุ่มที่ 2 เป็นกองถ่ายต่างชาติ ซึ่งต้องขออนุญาตมา มีช่วงเวลา กลุ่มคน และมีการกำหนดสถานที่ กำหนดแผน ซึ่งควบคุมได้ กลุ่มที่ 3 เป็นแรงงานที่อยู่ในภาคอุตสาหกรรม อาหาร และการก่อสร้าง เป็นแรงงานที่จะช่วยเข้ามาหมุนเวียนเศรษฐกิจ และกลุ่มที่กลุ่มสุดท้าย คือ กลุ่มที่เข้ามารักษา ทำจมูก ทำตา ทำลูก รอนัดหมายจากแพทย์ และอยู่ในโรงพยาบาล 14 วัน เพื่อให้เกิดความแน่ใจว่าจะปลอดเชื้อ ก่อนจะเข้าไปใช้จ่ายภายในประเทศเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ
นพ.ทวีศิลป์ ยังตอบคำถามถึงข้อกังวลเรื่องนักการทูตที่จะเข้ามาพักในคอนโดมิเนียมต่างๆทำให้นิติบุคคลต้องมีมาตรการว่า เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับทางการทูต จะเข้ามาพักในคอนโด จะยืนยันได้อย่างไรว่าผ่านการกักตัว 14 วัน โดยเจ้าหน้าที่เหล่านั้นเหมือนคนไทยที่อยู่มานานและไม่ได้เดินทางไปต่างประเทศ ขอให้วางใจ แต่บางคนที่ไปปฏิบัติภารกิจกลับมา ขณะนี้ ศบค.ได้ประสานไปยังสถานทูตฯ 100 ประเทศเพื่อให้เจ้าหน้าที่ทุกคนต้องเข้าไปอยู่ใน ASQ เป็นโรงแรม State Quarantine ที่จ่ายเงินเองด้วย เมื่อครบ 14 วัน ก็ไปใช้ชีวิตได้ปกติ
นอกจากนี้ โฆษก ศบค.ยังระบุว่า ไทยยังได้รับคำชมจาก The New York Times สื่อสหรัฐอเมริกา เผยแพร่บทความ No One Knows What Thailand Is Doing Right, But So Far, It's working โดยระบุว่าการป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 ของประเทศไทยยังคงได้ผลดีแม้จะไม่มีใครรู้ว่าเกิดจากปัจจัยใดกันแน่
แม้จะตั้งเป็นคำถามว่าได้ผลจริงจากอะไรกันแน่ แต่ในฐานะโฆษก ศบค.มองว่าได้ผลเพราะพี่น้องคนไทยใส่หน้ากากอนามัย หน้ากากผ้า มีวัฒนธรรมระยะห่างที่เคารพ ซึ่งกันและกัน เป็นความงดงามที่ไว้เนื้อเชื่อใจในยามวิกฤต และจิตอาสา แต่ทั้งหมดรวมอยู่ในคนไทยที่ทำให้คนไทยประสบความสำเร็จในระดับโลก