วันนี้ (20 ก.ค.2563) นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร แสดงความเป็นห่วงถึงการปรับ ครม.ประยุทธ์ 2/2 ว่าจะไม่สามารถนำคนที่มีความรู้ ความสามารถ เข้ามาทำงานเพื่อแก้ไขวิกฤตประเทศได้ในขณะนี้ เนื่องจากยังมีปัญหาความขัดแย้งภายในพรรครัฐบาลที่ยังไม่ลงตัวในตำแหน่งรัฐมนตรี อีกทั้งหากยังมีความขัดแย้งอยู่ และนายกฯ ต้องการคนที่มีความรู้ความสามารถเข้ามา จะเป็นเรื่องยากที่จะไม่มีบุคคลใดกล้าเข้ามาทำงานให้ประเทศชาติ ขณะเดียวกันนายกฯ ยังไม่รับฟังและไม่เปิดโอกาสให้คนเห็นต่างแสดงความคิดเห็น โดยเฉพาะเรื่องของการปรับ ครม.
เช่นเดียวกับนายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือวิปฝ่ายค้าน เป็นห่วงการปรับ ครม.ที่จะได้ทีมเศรษฐกิจที่แย่ลง เพราะมีข้อจำกัดของกลไกทางการเมืองที่นายกฯ ไม่สามารถเลือกด้วยตัวเองได้ รวมถึงนายกฯ ที่อาจจะเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจต่อ ดังนั้นจะมีวิธีคิดแบบเดิม และไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้
ขณะที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ประเมินการปรับทีมเศรษกิจของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ว่า แม้จะปรับเปลี่ยนตัวบุคคลในทีมเศรษฐกิจ ก็ไม่น่าจะส่งผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงใดๆ และไม่ได้มีความสำคัญมากนัก หากหัวหน้าทีมเศรษฐกิจยังเป็นคนเดิมอยู่
"อนุดิษฐ์" จี้นายกฯ รับผิดชอบหากล้มเหลวซ้ำซาก
น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กแสดงความคิดเห็นถึงการเตรียมปรับ ครม.ของรัฐบาล โดยระบุว่า การปรับ ครม.เป็นอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ เพราะการบริหารประเทศเป็นความรับผิดชอบของนายกฯ โดยตรงแต่เพียงผู้เดียว และจะปฏิเสธความรับผิดชอบที่เกิดขึ้นจากการบริหารของตนเองไม่ได้
แต่หลังจากการปรับ ครม.แล้ว หากการบริหารประเทศเป็นไปด้วยดี พล.อ.ประยุทธ์ ก็ควรได้รับความชอบไป แต่หากการบริหารราชการแผ่นดินล้มเหลวเหมือนที่ผ่านมา ประชาชนยังเดือดร้อนในเรื่องเศรษฐกิจเหมือน พล.อ.ประยุทธ์ ต้องรับผิด เพราะได้เลือกคนไม่มีความรู้และความสามารถมาทำงาน ต้องรับผิดชอบในการตัดสินใจ และหากการบริหารประเทศยังล้มเหลวซ้ำซาก การปรับ ครม.ครั้งต่อไปควรปรับ พล.อ.ประยุทธ์ ออกมา