วันนี้ (21 ก.ค.2563) เวลา 14.00 น. พล.อ.ณฐพนธ์ ศรีสวัสดิ์ ที่ปรึกษาพิเศษกองทัพบก ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กองทัพบก (ศบค.19 ทบ.) ผู้แทนกองทัพบก พร้อมด้วย พล.ท.ชาญชัย ติกขะปัญโญ เจ้ากรมแพทย์ทหารบก แถลงถึงการเตรียมการรับกองร้อยทหารราบ กลับจากการฝึกผสม รหัส Lightning Forge 2020 ณ มลรัฐฮาวาย ประเทศสหรัฐฯ ณ กองบัญชาการกองทัพบก
ตามที่กองทัพบกได้จัดส่งกำลัง 1 กองร้อยทหารราบ จำนวน 151 นาย จากกองทัพภาคที่ 2 จัดกำลังจากกองพลทหารราบที่ 3 เข้าร่วมการฝึกผสม รหัส Lightning Forge 2020 (LF20) กับกองพลทหารราบที่ 25 ของกองทัพสหรัฐฯ รวมทั้งมีนักเรียนนายร้อยไปฝึกปฏิบัติหน้าที่ต่างๆ ในกองร้อยด้วย ณ มลรัฐฮาวาย ประเทศสหรัฐฯ ระหว่างวันที่ 1-21 ก.ค.2563 นั้น ภารกิจการฝึกฯ ได้เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว และกำลังพลจะเดินทางกลับถึงประเทศไทยในวันที่ 22 ก.ค. เวลาประมาณ 17.40 น. โดยกองทัพบกได้เช่าเหมาลำอากาศยานของบริษัทการบินไทยในการเคลื่อนย้ายกำลังพลทั้งไปและกลับ
กองทัพบก ยืนยันว่าตลอดการฝึกผสม รหัส Lightning Forge 2020 (LF20) กำลังพลได้ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมและป้องกันการติดเชื้อ COVID-19 อย่างเคร่งครัดภายใต้มาตรการฝึกแบบ Bubble Training ซึ่งกำลังพลทุกนายจะฝึกภายในพื้นที่ควบคุมที่มีการป้องกันโรคอย่างเข้มงวดเท่านั้น ไม่อนุญาตให้กำลังพลออกนอกพื้นที่ฝึก โดยก่อนเดินทางกลับจะต้องกักตัวเป็นเวลา 14 วัน และตรวจเชื้อ 2 ครั้ง และเมื่อเดินทางกลับมาถึงประเทศไทย ก็จะปฏิบัติตามมาตรการของศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เช่นเดียวกับประชาชนทั่วไปที่เดินทางกลับเข้าประเทศ นอกจากนี้ ยังมีมาตรการเพิ่มเติมเพื่อเสริมการปฏิบัติให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ดังนี้
- ก่อนการเดินทางจัดแบ่งกำลังพลออกเป็นกลุ่มเรียงตามลำดับหมายเลข 1-151 มีการเตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้อง ทำการซักซ้อมการปฏิบัติ เพื่อให้กำลังพลสามารถปฏิบัติได้อย่างถูกต้องเป็นไปตามมาตรฐานที่ ศบค. กำหนด
- การปฏิบัติเมื่อกำลังพลเดินทางมาถึง ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ทุกนายจะสวมใส่หน้ากากอนามัยและแว่นตาป้องกัน เน้นมาตรการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล (Social distancing) โดยดำเนินการคัดกรอง ณ จุดจัดครองด่านควบคุมโรคติดต่อ ภายในอาคารผู้โดยสาร ตามขั้นตอนที่ ศบค. กำหนด นอกจากนี้กองทัพบกยังได้มีการจัดชุดแพทย์เพิ่มเติมจากโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ประสานการปฏิบัติกับชุดแพทย์ที่ประจำ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ของกระทรวงสาธารณสุข
- การเคลื่อนย้ายกำลังพลไปยังพื้นที่กักกันโรค State Quarantine ณ โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ ซิตี้ จอมเทียน พัทยา จ.ชลบุรี ในวันที่ 22 ก.ค.นี้ ภายในรถโดยสารได้มีการจัดทำกระจกกั้นแยกระหว่างห้องพลขับและห้องผู้โดยสาร โดยจัดเตรียมวิทยุไว้สำหรับการติดต่อสื่อสาร การจัดเตรียมอุปกรณ์ฆ่าเชื้อ (เจลแอลกอฮอล์ ผ้าเช็ดมือ) ประจำรถทุกคัน การจัดที่นั่งมีการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล (มาตรการ Social distancing) ไม่มีการแวะพักระหว่างการเดินทาง มีการจัดรถพยาบาลพร้อมชุดแพทย์จากโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ติดตามขบวนตลอดการเดินทาง
- สำหรับการดำเนินการต่อยุทโธปกรณ์ที่นำไปทำการฝึกนั้น ได้แยกไปดำเนินการฉีดฆ่าเชื้อ โดยเจ้าหน้าที่ของกรมวิทยาศาสตร์ทหารบก ก่อนที่จะเคลื่อนย้ายไปยังค่ายสุรนารี จ.นครราชสีมา ซึ่งจะมีการฉีดฆ่าเชื้อซ้ำอีกครั้ง ก่อนที่จะนำเก็บเข้าไว้ในคลังยุทโธปกรณ์ของหน่วยต่อไป
- การปฏิบัติ ณ พื้นที่กักกันโรค State Quarantine โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ ซิตี้ จอมเทียน พัทยา โดยความรับผิดชอบของมณฑลทหารบกที่ 15 มีการปฏิบัติ ดังนี้ จัดเตรียมเจ้าหน้าที่ทหารเพิ่มเติมจากกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ และโรงพยาบาลค่ายนวมินทราชินี จ.ชลบุรี ในการสนับสนุนงานด้านรักษาความปลอดภัย และการรักษาพยาบาลร่วมกับเจ้าหน้าที่ของ ศบค. ณ พื้นที่กักกันโรค State Quarantine, กำลังพลจะได้รับการตรวจหาเชื้อโดยเจ้าหน้าจากกรมควบคุมโรค 2 ครั้ง ในวันที่ 25 ก.ค. และ 3 ส.ค. มีการวัดไข้และรายงานทุกวัน และมีนักจิตเวช นักจิตวิทยาคอยให้คำปรึกษาตลอดเวลา, กำลังพลทุกนายจะต้องปฏิบัติตามระเบียบปฏิบัติประจำอย่างเคร่งครัด ไม่อนุญาตให้ออกนอกห้องพัก มีกล้อง CCTV เฝ้าตรวจตลอด 24 ชั่วโมง งดการเยี่ยมญาติ โดยได้ดำเนินการแบ่งการจัดกำลังพลออกเป็นหมวด หมู่ อย่างชัดเจน เพื่อให้การควบคุมช่วงการกักกันตัวเป็นไปอย่างเข้มงวด และไม่ให้มีการฝ่าฝืนระเบียบปฏิบัติดังกล่าวโดยเด็ดขาด
- เมื่อครบกำหนดการกักตัวในวันที่ 6 ส.ค.2563 แล้ว กำลังพลทุกนายจะได้รับหนังสือรับรองและกองทัพบกจะจัดโดยสารนำกำลังพลส่งกลับภูมิลำเนาต่อไป