วันนี้ (12 ส.ค.2563) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนะเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงเหตุการณ์หญิงวัย 37 ปี ขับรถชนเบนซ์เแยวชนคนและรถเสียหาย ว่า ตำรวจยังอยู่ระหว่างการสอบปากคำ เนื่องจากผู้ต้องหายังไม่สามารถให้การได้
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้ง 4 ข้อกล่าวหาคือ ขับรถในขณะเมาสุรา หรือสิ่งของมึนเมาอย่างอื่น, ขับรถโดยประมาทเฉี่ยวชนผู้อื่นเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและทรัพย์สินเสียหาย, ไม่หยุดรถและให้ความช่วยเหลือ และต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติการตามหน้าที่
ซึ่งในข้อหาความผิดดังกล่าวมีอัตราโทษอยู่ในอำนาจศาลแขวง หากผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ พนักงานสอบสวนจะดำเนินการยื่นฟ้องต่อศาลแขวงภายในระยะเวลา 48 ชั่วโมง แต่หากให้การปฏิเสธ พนักงานสอบสวนจะยื่นขอผัดฟ้องฝากขังผู้ต้องหาต่อศาล พร้อมสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องอื่นๆ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย
ด้าน พล.ต.ต.พัฒนา เพศยนาวิน ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 เปิดเผยว่า ขณะนี้มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความดำเนินคดีแล้ว 3 คน เป็นผู้ขับขี่รถยนต์ 1 คัน ถูกเฉี่ยวชนที่ถนนกำแพงเพชร 1 และรถจักรยานยนต์ 2 คัน ถูกเฉี่ยวชนบริเวณสะพานข้ามแยกกำแพงเพชร และที่หน้าธนาคารทหารไทย ถนนพหลโยธิน โดยทั้ง 3 คนได้รับบาดเจ็บและรถได้รับความเสียหาย
ภาพ : Tee shopspeed, อาสาร่วมฯ
สำหรับเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. โดยหญิงวัย 37 ปี ก่อเหตุขับรถเบนซ์เฉี่ยวชนคนและชนรถเสียหายหลายคัน ก่อนขับหลบหนี ซึ่งพลเมืองดีขี่รถจักรยานยนต์ดักติดตามไว้ได้ โดยรถคันดังกล่าวใช้เวลาหลบหนีไปตามเส้นทางต่างๆ ถึง 1 ชั่วโมง ตลอดเส้นทางมีประชาชน ตำรวจและอาสาสมัครร่วมติดตาม
ตำรวจนครบาลบางซื่อเข้าสกัดกั้นโดยจอดรถจักรยานยนต์ขวางหน้ารถเบนซ์เอาไว้ แล้วให้คนขับลงจากรถ แต่คนขับพยายามขับรถดันรถจักรยานยนต์ตำรวจ เพื่อเปิดทางขับหลบหนีต่อ โดยยังขับหลบหนีต่อเนื่องไปตามท้องถนน ท้ายที่สุดตำรวจติดตามสกัดให้หยุดรถได้ในย่านเตาปูน โดยคนรถเบนซ์ยอมลงจากรถและพบว่าได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ช่วยเกลี้ยกล่อมและนำส่งโรงพยาบาลเพื่อรักษาบาดแผล
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีผู้ได้รับบาดเจ็บถูกเฉี่ยวชนหลายคน และมีรถยนต์เสียหาย 2 คัน รถจักรยานยนต์เสียหาย 4 คัน ตำรวจตรวจร่างกายคนขับรถเบนซ์พบปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด 257 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หญิงเมาขับรถเบนซ์ชนแล้วหนีจากแครายถึงสะพานควาย