วันนี้ (24 ส.ค.2563) โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริการะบุว่าวิธีนี้จะช่วยชีวิตผู้คนได้นับไม่ถ้วน หลังองค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ หรือเอฟดีเออนุมัติฉุกเฉินให้ใช้พลาสมา ของผู้ที่หายป่วยจาก COVID-19 รักษาผู้ติดเชื้อ โดยระบุว่าเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพ
ด้านอเล็กซ์ อาซาร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขสหรัฐฯ ระบุว่าการรักษาด้วยวิธีนี้จะช่วยลดอัตราการเสียชีวิตได้ถึงร้อยละ 35 โดยถือเป็นเครื่องมือใหม่ในการรักษาผู้ป่วย COVID-19 ที่ใช้ควบคู่ไปกับยาเรมเดซิเวียร์ ยาสเตียรอยด์ และอีกหลายวิธีที่อยู่ระหว่างการศึกษา ภายใต้โครงการ "โอเปอร์เรชั่น วอร์ป สปีด" ของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่พยายามหาทางรักษาเพื่อควบคุมการระบาด
ทั้งนี้พลาสมาเป็นของเหลวในเลือดโดยพลาสมาของผู้ที่หายป่วยจากโรค COVID-19 จะเต็มไปด้วยภูมิต้านทาน และเมื่อฉีดเข้าไปในตัวผู้ป่วยโควิด-19 จะช่วยให้ร่างกายสร้างภูมิต้านทาน แต่ปัญหาของการรักษาด้วยวิธีนี้ คือพลาสมามีจำนวนน้อยมาก ทำให้การรักษาทำได้ในวงจำกัด
นอกจากนี้ยังมีการถกเถียงในวงการวิทยาศาสตร์ว่าการรักษาด้วยวิธีนี้ได้ผลจริงหรือไม่ ในขณะที่หลายฝ่ายมองว่านี่เป็นความพยายามของทรัมป์ที่จะเรียกคะแนนนิยมในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 3 พ.ย.นี้