วันนี้ (1 ก.ย.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กำลังเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานทั้งทหารเรือ ตำรวจน้ำ กรมประมง กรมเจ้าท่ากรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ภายใต้การอำนวยการของศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล หรือ ศรชล.เปิดปฏิบัติการนำร่องเข้ารื้อถอนสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำพื้นที่สาธารณะทางทะเล อ่าวบ้านดอน จ.สุราษฎร์ธานี
สำหรับจุดแรกที่เจ้าหน้าที่ได้เข้าปฏิบัติการเพื่อรื้อถอน คือขนำแดงหลังใหญ่ ราคากว่า 3 ล้านบาท ซึ่งในจุดนี้เจ้าของขนำได้แสดงตัวยอมรับความเป็นเจ้าของ เจ้าหน้าที่จึงได้บันทึกปากคำ เพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเพื่อทำสำนวนส่งฟ้องศาล จึงไม่ได้มีการรื้อถอนขนำหลังแดงในวันนี้ จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาออกมา ซึ่งเจ้าของขนำระบุว่าพร้อมยอมรับคำตัดสินของศาลหลังจากนี้
คิดค่ารื้อถอนตารางเมตรละ 20,000 บาท
ขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดรื้อถอนชี้แจงว่าสำหรับเจ้าของขนำที่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมจะต้องมีค่าปรับการบุกรุกก่อสร้างในพื้นที่สาธารณะตารางเมตรละไม่เกิน 20,000 บาทในระหว่างที่อยู่ในกระบวนการส่งฟ้องศาล ส่วนขนำหลังใดไม่มีการแสดงความเป็นเจ้าของเจ้าหน้าที่ก็จะเริ่มทยอยรื้อต่อไปทั้งหมด
ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ได้ปิดหมายคำสั่งทางปกครองให้เจ้าของขนำใน อ.พุนพิน และ อ.เมืองสุราษฎร์ธานี จำนวน 176 ขนำ เป็นผู้รื้อถอนด้วยตัวเองโดยไม่มีความผิดภายในเวลา 60 วัน ซึ่งได้มีเจ้าของขนำได้ยินยอมรื้อถอนไปแล้วประมาณ 70 หลัง ส่วนที่เหลือยังไม่ยินยอมรื้อถอน เจ้าหน้าที่จึงสนธิกำลังนำเครื่องมือเข้ารื้อถอนเป็นครั้งแรกในวันนี้ แต่จะเป็นการเข้ารื้อถอนเฉพาะขนำที่ไม่ผู้แสดงความเป็นเจ้าของเท่านั้น
คาดว่าใช้เวลาอีก 6 เดือน ศาลพิพากษาคดี
ทั้งนี้ ขนำแดงหลังใหญ่ ซึ่งได้มีผู้แสดงความเป็นเจ้าของ เจ้าหน้าที่จึงไม่ได้มีการรื้อถอนในทันที แต่เปิดโอกาสให้ต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาอีก 6 เดือนว่าศาลจะมีคำพิพากษาออกมาอย่างไร โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้เคลื่อนย้ายไปยังขนำหลังอื่น เพื่อดำเนินการรื้อถอนต่อไปในรายที่ไม่การแสดงความเป็นเจ้าของ