ความคืบหน้าคดี น.ส.จุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน อดีตผู้อำนวยการกองการศึกษาองค์การบริหารส่วนตำบลชำ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ หรือ ผอ.อ้อย ถูก ร.อ.ศุภชัย ภาโส หรือผู้กองเหน่ง อดีตทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ฆาตกรรมและนำศพไปทิ้งใกล้ฐานทหารบริเวณชายแดนไทยกัมพูชา จ.อุบลราชธานี เมื่อเดือน ก.ค.2560
ล่าสุด ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นคือประหารชีวิต แม้ครอบครัวจะดีใจแต่ก็ยังกังวลเพราะจำเลยไม่ยอมรับสารภาพและเตรียมยื่นฎีกาเพื่อขอลดโทษตามกระบวนการทางกฎหมาย
เป็นเวลากว่า 3 ปี ที่นางแหลม อุ่นอ่อน มารดาของผอ.อ้อย และครอบครัวต้องเดินทางไปขึ้นศาลเพื่อต่อสู้คดี ความทุกข์ใจที่สูญเสียเสาหลักของครอบครัว แม้จะเบาบางหลังศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นคือประหารชีวิตจำเลย และแก้ไขในส่วนคดีแพ่งให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายให้กับครอบครัวจากเดิม 2.7 ล้านบาท เป็น 3.5 ล้านบาท แต่ผู้ต้องหาเตรียมยืนฎีกาเพื่อขอลดโทษทำให้ครอบครัวกังวลว่าจำเลยจะไม่ได้รับโทษสูงสุด
พฤติกรรมของจำเลยที่โหดร้ายและเป็นคดีอุกฉกรรจ์ประกอบกับจำเลยไม่ยอมรับสารภาพแต่ให้การเจือสม หรือมีความสอดคล้องกับพยานหลักฐานของพนักงานสอบสวนทำให้คำพิพากษาทั้ง 2 ศาล คือศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ตัดสินประหารชีวิตจำเลย ซึ่งขณะนี้ ร.อ.ศุภชัยถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำกลางบางขวาง กรุงเทพฯ ส่วนทีมทนายฝ่ายโจทก์อยู่ระหว่างการเตรียมต่อสู้คดีในชั้นศาลฎีกา
คดีฆาตกรรม ผอ.กองการศึกษา อบต.ชำ ได้รับความสนใจเพราะผู้ก่อเหตุเป็นทหารยศร้อยเอก ประกอบกับคดีนี้ไม่มีประจักษ์พยาน พนักงานสอบสวนต้องใช้หลักฐานทางนิติวิทยาศาตร์และเทคโนโลยี เช่น การใช้สัญญาณโทรศัพท์ที่พบว่า ผู้ตายอยู่กับจำเลยห่างจากจุดพบศพเพียง 3 กม. รวมถึงการตรวจสอบเส้นทางการเงินที่เชื่อมโยงไปยังจำเลยเพียงคนเดียว ส่วนสาเหตุในการฆาตกรรมคือปัญหาหนี้สินที่จำเลยยืมเงินผู้ตายไปกว่า 600,000 บาทแต่ไม่ส่งคืน ก่อนผู้ตายจะพยายามติดตามทวงหนี้และถูกฆาตกรรม
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ศาลตัดสินประหารชีวิต “ผู้กองเหน่ง” คดีฆาตกรรม “ผอ.อ้อย”