วันนี้ ( 6 ก.ย.2563) ไทยพีบีเอสออนไลน์ สัมภาษณ์ น.สพ.ภุมเมศ ชุ่มชาติ สัตวแพทย์ประจำโรงพยาบาลสัตว์บุญธรรม หลังโซเชียลแชร์ภาพความน่ารักและส่งกำลังใจให้เต่าน้อยขาติดล้อเลื่อน
น.สพ.ภุมเมศ ผู้ช่วยชีวิตเต่าน้อย เล่าว่า เต่าตัวน้อย สายพันธุ์ซูคาต้า 2 ตัว ถูกส่งมารักษาหลังสุนัขภายในวัดแห่งหนึ่งกัด จนได้รับบาดเจ็บอย่างหนักที่ขาหลังขวา ส่วนอีกตัวได้รับบาดเจ็บจนไส้ไหลออกมา จึงต้องทำการผ่าตัดเพื่อรักษาชีวิต ลดความเสี่ยงการติดเชื้อเข้ากระแสเลือด
เจ้าขาขาดและไส้ไหล เป็นชื่อที่โรงพยาบาลเรียก 2 เต่าน้อย หลังผ่านการรักษาและพักฟื้นนาน 1 เดือน จนเกิดเป็นความผูกพัน เมื่อทั้ง 2 ตัวอาการดีขึ้น กินเก่ง ปรับตัวในการใช้ล้อได้ดี จึงส่งตัวกลับไปเลี้ยงในวัดอีกครั้ง และได้รับการดูแลเป็นอย่างดี
ภาพ:โรงพยาบาลสัตว์บุญธรรม
ภาพ:โรงพยาบาลสัตว์บุญธรรม
น้องเต่าแข็งแรงดีและสู้ชีวิตมาก ความโชคร้ายในวันนั้น จนตอนนี้กลายเป็นเต่าติดล้อ เดินคล่องแคล่ว รวดเร็ว และปรับตัวเข้ากับเพื่อนสายพันธุ์เดียวกันได้ดี
ในอนาคตเมื่อเต่าตัวโตขึ้นจะต้องปรับขนาดล้อให้ใหญ่ขึ้นตามด้วย แต่ต้องดูเรื่องความสมดุลของล้อขนาดใดจะรับน้ำหนักเต่าได้
ภาพ:โรงพยาบาลสัตว์บุญธรรม
ภาพ:โรงพยาบาลสัตว์บุญธรรม
น.สพ.ภุมเมศ ยังเล่าถึงที่มาของล้อว่า เป็นของเล่นของลูกเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล โดยนำมาประยุกต์ใช้กับเต่าตัวนี้ ซึ่งวิธีนี้ในต่างประเทศก็มีการทำ โดยนำล้อมาใส่ในเต่าหรือในสัตว์เล็ก อย่าง สุนัข แมว
เมื่อต้องตัดขา จะมีการใส่ล้อเลื่อน เพื่อให้คุณภาพชีวิตเขาดีขึ้น ประยุกต์อุปกรณ์มาใช้ตามความเหมาะสมของสัตว์แต่ละชนิด
สัตวแพทย์ ยอมรับว่าเต่าสามารถมีชีวิตอยู่ได้แม้สูญเสียขา แต่การติดล้อแทนขาช่วยให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น เคลื่อนไหวสะดวก และปรับตัวอยู่ร่วมกับเต่าตัวอื่นได้ ทั้งนี้ เต่าสายพันธุ์ซูคาต้า คนไทยนิยมนำมาเลี้ยง เพราะด้วยอุปนิสัยกินเก่ง และรูปทรงดูสวยงาม ไม่กร้าวร้าว โตเต็มที่ขนาดยาวได้ถึง 33 นิ้ว น้ำหนักราว 100 กิโลกรัม มีอายุยืนยาว 80-90 ปี