วันนี้ (9 ก.ย.63) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนซึ่งเป็นญาติวีรชน "เหตุการณ์พฤษภา 35" พร้อมด้วยกลุ่มนักการเมือง ได้จัดทำพิธีย้ายเคลื่อนย้ายอัฐิผู้เสียชีวิตและสูญหายจากเหตุการณ์พฤษภาคมปี 2535 จากอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา ย้ายมาที่อนุสรณ์สถานพฤษภาประชาธรรม สวนสันติพร โดยมีพระสงฆ์มาทำพิธี พร้อมเป็นการรำลึกถึงความสูญเสียของประชาชน ที่ถูกคุกคามทางการเมืองในอดีตที่ผ่านมา
นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 เปิดเผยว่า การเคลื่อนย้ายอัฐิครั้งนี้ ถือเป็นการตอกย้ำความสูญเสียของครอบครัว และไม่เห็นด้วยที่จะมีการรัฐประหารเนื่องจากทำไปก็มีแต่ความเสียหาย ขอให้รัฐบาลควรคิดอย่างรอบคอบโดยเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เสียสละด้วยการลาออกจากตำแหน่ง เชื่อว่าหากเกิดการปฎิวัติ เยาวชนทั่วประเทศไม่ยินยอมแน่ พร้อมกับให้กำลังใจคนรุ่นใหม่เพราะสิ่งที่เรียกร้องคืออนาคตของเขา ขอให้ทำทุกอย่างเพื่อนำไปสู่การปฎิรูปบ้านเมือง
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า เปิดเผยว่า การทำรัฐประหารไม่ได้ช่วยอะไรให้กับสังคมเพราะแก้ปัญหาไม่ได้ ควรกลับมาเชื่อมั่นแสวงหาทางออกภายใต้ระบอบประชาธิปไตย ไม่จำเป็นต้องพึ่งนายกคนนอก ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ส่วนกระแสข่าวลือว่าจะอาจมีการทำรัฐประหาร ผู้มีอำนาจต้องคิดหนักหากเกิดการรัฐประหารเพราะประชาชนไม่ยอม วันนี้ต้องหาทางออกต้องทำรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนขึ้นมาใหม่น่าจะเป็นทางออกเดียวที่เหลืออยู่ ต้องมีข้อตกลงร่วมกันเพื่ออยู่ด้วยกันอย่างสันติจำเป็นต้องมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่ตกลงร่วมกัน
ส่วนประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 ปัญหาคือการตั้ง ส.ส.ร. ควรจะมาจากการเลือกตั้งโดยตรง ตามหลักการประชาธิปไตย และการร่างรัฐธรรมนูญ ฝ่ายรัฐบาล 150 คน มาจากการเลือกตั้ง ส่วนอีก 50 คน มาจากการจัดตั้ง อีกมาตรา 272 การดึงอำนาจออกไปของสมาชิกวุฒิสภาในการโหวดเลือกนายกฯสามารถเปิดโอกาสให้ ส.ส. มีสิทธิเลือกนายกฯโดยไม่มีการแทรกแซง สำหรับการชุมนุมวันที่ 19 ก.ย.ที่จะถึงนี้ นายธนาธรมองว่าไม่น่าจะเกิดความรุนแรง ต้องถามกลับไปที่เจ้าหน้าที่รัฐมากกว่าว่า จะยินยอมให้มีการชุมนุมโดยสงบหรือไม่