วันนี้(15 ก.ย.2563) เจ้าหน้าที่จีนตรวจวัดอุณหภูมิประชาชนในเมืองรุยลี่หรือเมืองมาว ในมณฑลยุนนาน ทางตะวันตกของประเทศ ซึ่งตั้งอยู่ติดกับชายแดนเมียนมา พร้อมทั้งสั่งปิดเมืองไม่ให้เดินทางเข้า-ออก ตั้งแต่ช่วงเย็นวานนี้ (14 ก.ย.) เป็นเวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์ โดยเจ้าหน้าที่ได้ขอความร่วมมือให้ประชาชนเก็บตัวอยู่ภายในบ้านเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด
เจ้าหน้าที่ยังได้เตรียมการเพื่อตรวจหาเชื้อ COVID-19 ให้กับประชาชนที่อาศัยอยู่ในเมืองกว่า 210,000 คน หลังจากล่าสุดพบผู้ติดเชื้อไปแล้วอย่างน้อย 3 คน
นอกจากนี้ยังประกาศที่จะส่งตัวชาวเมียนมาที่ไม่สามารถแสดงหลักฐานยืนยันได้ว่าเข้ามาพำนักในจีนตั้งแต่เมื่อใด รวมถึงไม่มีที่พักและที่ทำงานเป็นหลักแหล่งกลับประเทศทั้งหมด
เมียนมาพบติดเชื้อเพิ่ม 700 % ใน 1 เดือน
ขณะที่สื่อเมียนมารายงานว่า ในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมา หลังพบการแพร่ระบาดระลอกใหม่ขึ้นในรัฐยะไข่ เมื่อวันที่ 16 ส.ค. พบว่าเมียนมามีผู้ติดเชื้อ COVID-19 เพิ่มขึ้นถึง 700 % และมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 3 เท่า ล่าสุดพบผู้ติดเชื้อไปแล้วกว่า 3,300 คน เสียชีวิต 32 คน
กระทรวงสาธารณสุขเมียนมา ระบุว่า ในช่วง 3 สัปดาห์ต่อจากนี้ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญที่จะพิสูจน์ว่าเมียนมาจะสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้หรือไม่ หากจำกัดการแพร่ระบาดของโรคไม่สำเร็จในระยะเวลาดังกล่าวแล้ว เมียนมาจะต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดอย่างรุนแรงและยาวนาน รวมถึงผลกระทบที่จะตามมาอีกมากมาย
แต่เบื้องต้นการแพร่ระบาดในรัฐยะไข่ได้เริ่มชะลอตัวลงแล้ว หลังจากภาครัฐใช้มาตรการปิดพื้นที่และขอให้ประชาชนเก็บตัวอยู่ภายในบ้าน แม้ว่าในกรุงเนปิดอว์และนครย่างกุ้งจะพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องก็ตาม