วันนี้ (19 ก.ย.63) นายปิยบุตร แสงกนกกุล แกนนำคณะก้าวหน้า และ อดีต ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ระบุว่า การเคลื่อนไหวในครั้งนี้สำคัญอย่างยิ่งเพราะเป็นพลังฝ่ายประชาธิปไตยที่รวมพลังของคนทุกกลุ่ม ทุกฝ่าย ทุกสี ทุกค่ายการเมือง ที่แต่ก่อนอาจมีความขัดแย้งกันบ้างแต่วันนี้รวมกันติด รวมถึงเคลื่อนไหวในหลากหลายประเด็นปัญหา ดังนั้นจึงเป็นพลังประชาธิปไตยที่จุดขึ้นมาติดอีกครั้ง ซึ่งทุกต้องช่วยกันประคับประคองพลังอันนี้ไว้หากต้องการฟื้นฟูประชาธิปไตย
นายปิยบุตรยังกล่าวว่า ในการชุมนุมเคลื่อนไหวในวันที่ 19 ก.ย.นี้แสดงออกถึงสัญลักษณ์หลายอย่าง โดยเฉพาะการรัฐประหารวันที่ 19 ก.ย.49 ที่ผ่านมาเป็นเวลา 14 ปี สัญลักษณ์อันที่ 2 คือ พื้นที่ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่ควรจะเป็นพื้นที่เปิดแต่ก็มีการปิดในวันนี้ ซึ่งนักศึกษาก็สามารถผลักดันให้กลายเป็นพื้นที่เปิดได้ ขณะที่สนามหลวงซึ่งเคยเปิดให้ทุกคนได้ใช้ต่อมามีการปิด และได้กลับมาเปิดอีกครั้ง เป็นพื้นที่สาธารณะที่ทุกคนได้ใช้อีกครั้ง
สิ่งที่ชัดเจนที่สุดในการชุมนุมวันนี้คือวันที่ ที่ 19 ก.ย.คือ 14 ปี ที่ประชาชนมารวมตัวกันเพื่อส่งเสียงว่า ไม่อยากทนอีกต่อไป ตลอด 14 ปี มันมีหลายเรื่องราว มีการรัฐประหาร 2 ครั้ง มีการยุบพรรคการเมืองหลายครั้ง มีการชุมนุมใหญ่ มีการสลายการชุมนุมมีผู้บาดเจ็บล้มตายทั้ง 2 ฝ่าย การละเมิดสิทธิมนุษยชนจำนวนมาก นโยบายของรัฐเอื้อทุนผูกขาด รวมถึงการจัดซื้ดอาวุธยุทธโปกรณ์ต่าง ๆ 14 ปี ที่ผ่านมาประเทศไทยยอมเสียต้นทุนทั้งเวลา ทั้งโอกาส ทรัพยากรอำนาจ ยอมเสียกันไปหมดเพียงเพื่อค้ำบัลลังก์ให้คนไม่กี่ตระกูล
นายปิยบุตร ยังกล่าวว่า วันนี้บทบาทของกลุ่มคณะก้าวหน้ามีหลายคนที่เดินทางมาร่วมชุมนุมในวันนี้ทั้งตนเอง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ น.ส.พรรณิการ์ วานิช และเพื่อนอีกหลายคนขณะนี้ที่เป็น ส.ส.พรรคก้าวไกล โดยหลายคนเดินทางมาร่วมชุมนุมเพราะสนับสนุนข้อเรียกร้องของประชาชน ขณะที่การรณรงค์ของคณะก้าวหน้าจะมีแน่แต่ขอให้ติดตามกันต่อไป
ขณะที่แนวทางการเคลื่อนไหวเพื่อปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ นายปิยบุตร ระบุว่า นอกเหนือจากการเคลื่อนไหวของประชาชนในการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ฝ่ายที่มีอำนาจต่าง ๆ ต้องร่วมมือด้วยการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์จึงจะสำเร็จ
ขณะที่การเคลื่อนขบวนในวันพรุ่งนี้ (20 ก.ย.63) หากฝ่ายความมั่นคงเข้าใจการเคลื่อนไหวหากปล่อยให้ผู้ชุมนุมแสดงสัญลักษณ์ก็จบทุกคนจะได้แยกย้ายกันกลับบ้านเพราะไม่ได้ทำอันตราย คุกคามข่มขู่ใด ๆ ทั้งสิ้น