วันนี้ (23 ก.ย.2563) นายเอื้อน กลิ่นสาลี อดีตพระพรหมดิลก อดีตเจ้าอาวาสวัดสามพระยา, อดีตกรรมการมหาเถรสมาคม, และเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร กับ นายสมทรง อรรถกฤษณ์ อดีตพระอรรถกิจโสภณ ซึ่งเป็นอดีตเลขานุการเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร เข้ารับฟังคำตัดสินชั้นอุทธรณ์ ในคดีความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ และความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง
คดีนี้ศาลให้พิพากษายกฟ้องจำเลยทั้ง 2 คน เนื่องจากตามเอกสารระบุว่างบประมาณสนับสนุนโรงเรียนพระปริยัติธรรม ของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เป็นงบประมาณให้กับวัดที่มีความพร้อม ในการจัดการเรียนการสอน
ซึ่งวัดสามพระยาถือว่า เข้าคุณสมบัติรับงบประมาณ และจำเลยทั้ง 2 คน เป็นบุคคลภายนอกสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ไม่ทราบรายละเอียดในการใช้งบฯ ซึ่งการนำงบไปก่อสร้างบำรุงวัด มีเอกสารชัดเจนไม่มีการปกปิกอำพรางจึงถือว่าไม่มีความผิด
หลังคำพิพากษา พนักงานอัยการสามารถยื่นขอฎีกาคดีได้ภายใน 30 วัน หากไม่มีการยื่นขอ คำพิพากษาชั้นอุทธรณ์ถือเป็นที่สิ้นสุด
ภายหลังฟังคำพิพากษาเสร็จสิ้น ทั้ง 2 คน ได้เดินทางกลับโดยไม่ได้แสดงความเห็นต่อคำพิพากากษากับสื่อมวลชน
คดีนี้สืบเนื่องจากรณีมีการนำเงินสนับสนุนโรงเรียนปริยัติธรรมแผนกการศึกษาของสำนักงานพระพุทธศาสนา จำนวน 5 ล้านบาท ไปใช้จ่ายในการก่อสร้างอาคารร่มธรรม และอาคารที่พักสงฆ์ วัดสามพระยา ทั้งที่ภายในวัดไม่มีโรงเรียนปริยัติธรรม โดยมีการโอนเงินรวมทั้งสิ้น 2 ครั้ง คือ วันที่ 7 ม.ค.2557 และ 14 ม.ค.2557 รวมเป็นเงินกว่า 3.5 ล้านบาท
แม้ว่าจำเลยที่ 1 และ 2 จะอ้างว่า เข้าใจผิดว่าเป็นเงินที่ได้มาจากการยื่นของบประมาณการสร้างอาคารตั้งแต่ปี 2556 แต่ในเอกสารมอบฉันทะและใบตอบรับเงินอุดหนุนมีรายละเอียดวัตถุประสงค์ของเงินงบประมาณชัดเจนการนำงบดังกล่าวไปใช้ในการก่อสร้างจึงถือเป็นการเปลี่ยนสภาพทรัพย์ เพื่อปกปิดแหล่งที่มาของทรัพย์ที่ได้มาโดยทุจริตเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ฟอกเงิน
ก่อนหน้านี้ ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกอดีตพระพรหมดิลก จำเลยที่ 1 เป็นเวลา 6 ปี เนื่องจากเห็นว่าเป็นเจ้าพนักงานกระทำความผิด ส่วนอดีตพระอรรถกิจโสภณ ศาลพิพากษาจำคุก 3 ปี