กลายเป็นประเด็นที่โจษขานกันอย่างมากในขณะนี้ กับการ “เล่นใหญ่” ของพรรคพลังประชารัฐ ที่ประกาศไม่ส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งองค์กรปกครองส่วนจังหวัด (อบจ.) ซึ่งเป็นสนามแรกของเลือกตั้งท้องถิ่น ตั้งแต่ไก่โห่
โดยเฉพาะความหวาดหวั่นที่จะ “สุ่มเสี่ยง” กับข้อจำกัดของกฎหมายตาม มาตรา 34 ของ พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2562
เรื่องมาตรา 34 ที่ว่านี้ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ฝ่ายกฎหมาย ออกมาสรุปกลางวงประชุม ครม.ว่า
ข้าราชการการเมืองจะไปช่วยผู้สมัครนายกอบจ. หาเสียงไม่ได้ รวมถึงไม่สามารถนำภาพของข้าราชการการเมือง อาทิ นายกฯ, รัฐมนตรี รวมถึง ส.ส. ไปใช้ประกอบการหาเสียงได้
เล่นเอา หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ถึงกับออกอาการขยาด ยอมรับตรงๆ ว่า “ถ้าส่งแล้วโดนยุบพรรค จะส่งทำไม”
ว่าแล้ว บิ๊กป้อม ก็นำ “ปม” ข้อกฎหมายดังกล่าว มาหารือกับกรรมการบริหารพรรคอย่างเร่งด่วน จนกระทั่งได้บทสรุปว่า พรรคจะไม่ส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้งสมาชิกสภา อบจ.และ นายก อบจ.เว้นแต่มีเหตุจำเป็น ซึ่งจะนำมาพิจารณาอีกครั้ง
มติของพรรคพลังประชารัฐ ถือว่าสวนกระแสกับพรรคอื่น โดยเฉพาะคณะก้าวหน้า และพรรคภูมิใจไทย ที่ชิงประกาศ ทยอยเปิดตัวผู้สมัครในหลายพื้นที่
แต่หลายฝ่าย ยัง “คลางแคลงใจ” ต่อการรีบเร่ง ตัดสินใจเรื่องดังกล่าวทั้งๆ ที่ ยังพอมีเวลาที่จะเคลียร์ หรือหาความชัดเจนในข้อกฏหมาย หรือรอฟัง ผู้ปฎิบัติอย่าง กกต. ที่จะหารือในวันที่ 2 พ.ย.
หรือนั่นอาจจะเป็นเพราะบทสรุปดังกล่าว เป็น “ตัวช่วย” ที่ทำให้ต้องรีบคว้า มาเป็นทางออก ตอบโจทย์ ปัญหาการตัดสินใจส่งผู้สมัครนายกฯ อบจ. ในนามพรรคที่ “คาราคาซัง” มานาน
“เรื่องกฎหมาย ถูกยืมมาใช้เป็นทางออกเรื่องนี้ พรรคประวิงเวลามานาน ตัดสินใจไม่ได้ เพราะมีปัญหาทั้งเรื่องกลุ่ม เรื่องพื้นที่ที่ ส.ส.แต่ละคนเห็นต่างกัน ตกลงกันไม่ได้ เลือกที่จะสนับสนุนคนของตัวเอง ที่สำคัญคือไม่มีเจ้าภาพ ถ้าลงในนามพรรคต้องใช้เงินจำนวนมาก และอาจจะไม่คุ้ม” แกนนำพรรคคนหนึ่งกล่าว
ขณะที่รองหัวหน้าพรรคที่ดูแลภาค ยอมรับว่า “อย่างภาคอีสาน การส่งให้นามพรรคก็ใช่ว่าจะได้รับเลือก แต่ถ้าลงในนามผู้สมัครอิสระ แล้วพรรคหนุน ไม่แน่ มีสิทธิ์ลุ้นกว่า”
นั่นจึงเป็นที่มา ที่นายอนุชา นาคาศัย เลขาธิการพรรค ระบุถึงการเลือกตั้งท้องถิ่น ว่า “เรื่องของท้องถิ่น พรรคมองว่า เรื่องละเอียดอ่อน เพราะมีผู้ที่ลงสมัครจำนวนมาก มีหลายกลุ่มหลายพวกพ้องบางครั้ง ควรปล่อยพื้นที่ว่างให้กับท้องถิ่นได้บริหารจัดการกันเอง”
เรียกได้ว่า หมดไปหนึ่งเปลาะ กับปมปัญหาภายในพปชร. ..สุดท้าย คงต้องรอดูว่าผลเลือกตั้งอบจ.จะออกมาอย่างไร แต่ที่แน่ๆ งานนี้ พรรค “ลอยตัว” จากปัญหา ได้อย่างสบายใจ