วันนี้ (4 พ.ย.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สนามหลวง เมื่อเวลา 16.00 น.กลุ่มราษฎร กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม และเครือข่ายต่างๆ นำโดยนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน นายอรรถพล บัวพัฒน์ หรือ ครูใหญ่ พร้อมตัวแทนจากกลุ่มต่างๆร่วมตั้งโต๊ะแถลงจุดยืนการเคลื่อนไหวและแสดงจุดยืนต่อกรณีการตั้งคณะกรรมการปรองดองสมานฉันท์
กลุ่มราษฎร ได้ร่วมกันอ่านแถลงการณ์ ระบุว่า ตามที่ฝ่ายรัฐบาลได้เสนอให้จัดตั้งคณะกรรมการปรอง ดอง-สมานฉันท์ขึ้น โดยให้เหตุผลว่าเป็นไปเพื่อลดความตึงเครียดทางการเมืองในสังคม และหาทางแก้ไขปัญหาให้กับประเทศชาตินั้น พวกเราเห็นว่าการจัดตั้งคณะกรรมการดังกล่าวมิอาจนำมาซึ่งหนทางแก้ปัญหาใดๆดังที่กล่าวอ้างได้ เพราะแท้จริงแล้ว การดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา เป็นอุปสรรคประการใหญ่ที่สุดที่ขัดขวางการแก้ไข ปัญหาการเมือง เศรษฐกิจและสังคมของประเทศชาติ นอกจากนี้ยังปราศจากความชอบธรรมโดยสิ้นเชิง
ทั้งนี้เพราะพล.อ.ประยุทธ์ ได้เข้าสู่อำนาจโดยมิชอบตั้งแต่แรก จึงนับได้ว่าการจัดตั้งคณะกรรมการดังกล่าว เป็นเพียงการแสดงละครทางการเมืองของฝ่ายรัฐบาล เพื่อซื้อเวลาให้ พล.อ.ประยุทธ์ พวกเราขอประกาศจุดยืนว่าจะไม่ยอมรับ และจะไม่สังฆกรรม กับคณะกรรมการที่ฝ่ายรัฐบาลจะจัดตั้งขึ้น และขอยืนยันว่าปัญหาจะเริ่มต้นมิได้เลย หากพล.อ.ประยุทธ์ ยังไม่ลาออก จากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ พวกเราขอยืนยันในข้อเรียกร้องทั้ง 3 ข้อดังต่อไปนี้
- พล.อ.ประยุทธ์ ต้องลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
- ต้องมีการร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน
- ต้องมีการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ให้อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ
ยืนยัน 3 ข้อเรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์ ลาออก เพื่อเปิดทางในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะหากนายกรัฐมนตรีไม่ลาออก ก็ยังไม่สามารถก้าวไปทำข้อต่อไปได้
นายจตุภัทร์ กล่าวว่า ขณะนี้กำลังมีการลงนามเสนอแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ 2560 ที่มาจากการรัฐประหาร และนิรโทษกรรมการตัวเอง ดังนั้นถ้าพล.อ.ประยุทธ์ ยังอยู่ ปัญหาที่จะมาเจรจราในขั้นสภานิติบัญญัติคงทำอะไรไมได้ เพราะเห็นชัดว่ารัฐสภา ที่เปิดอภิปรายไม่ได้ปกป้องประชาชน แต่ปกป้องพล.อ.ประยุทธ์
ถ้าจะถอยกันคนละก้าว ต้องมาจากหลายเสียงบนท้องถนนจะต้องเข้าไปสู่รัฐสภา และถ้าใช้กลไกบริหารไม่ได้ ก็คงต้องใช้กลไกทางนิติบัญญัติ
รอหมัดเด็ดน็อกนายกรัฐมนตรี
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะหมัดน่าจะเด็ดหรือไม่ นายจตุภัทร์ ย้อนถามว่าดูจากคนที่มาหมัดเด็ดหรือไม่ เพราะวันนี้ที่มาก็มีหลายเครือข่าย ซึ่งขณะนี้นายกรัฐมนตรี ยิ่งอยู่นานยิ่งมีความเข้มแข็งขึ้น หลังจากนี้ส่วนจะใช้อะไรเคลื่อนไหว ตอนนี้ขอใช้ในนามราษฎร ส่วนที่มีหลายกลุ่มออกมา ถือตอนนี้มีการเคลื่อนไหวแบบแกนนอน ใครไม่พอใจ ก็ลุกขึ้นออกมา แต่ตอนกลุ่มจะเป็นคณะราษฎร
โอกาสจะชุมชุมนุมใหญ่หรือไม่ มีแน่นอน อยู่ระหว่างการหารือร่วมกันเพื่อกำหนดรูปแบบและทิศทางการยกระดับการชุมนุม โดยจะประกาศผ่านทางทางเพจแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ขอให้ฟังแค่เพจนี้
ด้านนายอรรถพล ระบุว่า สลักตัวแรกคือพล.อ.ประยุทธ์ เพราะเป็นคนที่ทำให้ไม่สามารถเดินหน้าตามข้อเรียกร้องได้เลย เช่นเดียวกับที่นายณัฐชนน ไพโรจน์ ยืนยันว่า ตอนนี้ถึงจะมีการเคลื่อนไหวทุกวันแต่มวลชนยังมีแรงใจสู้ เพื่อให้ข้อเรียกร้องเกิดความสำเร็จขึ้นได้อย่างแน่นอน
สิ่งที่รัฐทำเป็นสิ่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและการที่ตั้งคณะกรรมการป่าหี่ เป็นสิ่งที่อัปยศ วอนนายกฯ อย่าดูถูกประชาชน ไม่ใช้่ใบไม้แห้ง แต่เป็นเมล็ดพันธ์ุที่ร่วงลงดินแล้วเติบโตเป็นต้นไม้ใหญ่
นอกจากนี้ นายชินวัตร จันทร์กระจ่าง ยังเรียกร้องอีกว่า กรณีรัฐบาลจัดตั้งมวลชนอีกกลุ่มมาทำร้าย ขอฝากนายกรัฐมนตรี ที่บอกว่าจงรักภักดี แต่กลับอีกฝ่ายมาทำร้ายหากนายกรัฐมนตรี จงรักภักดี คำขอครั้งสุดท้ายคือการลาออกเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล
อาการ 3 แกนนำดีขึ้น
นพ.ทศพร เสรรีรักษ์ กล่าวถึงอาการของเพนกวิน รุ้ง ทุกคนพ้นขีดอันตรายแล้ว โดยเฉพาะไมค์ ที่มีอาการหนักสุด เพราะตอนเข้ามาหมดสติ ขาดน้ำ ซึ่งคนเสียน้ำมากๆ จะเสี่ยงต่อชีวิตได้ โดยทั้งหมดแพทย์จะอาจให้ออกจากโรงพยาบาลได้ภายใน 2-3 วันนี้ แต่ต้องกลับไปพักฟื้นที่บ้านต่ออีกประมาณหนึ่งสัปดาห์ จึงจะสามารถไปทำกิจกรรมอื่นๆ ต่อได้
ส่วนเหตุผลที่ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลพระราม 9 จนถูกโจมตีจาก ส.ส. ยืนยันว่าที่เลือกเพราะว่ามีความคุ้นชินกับแพทย์ ไม่เกียวกับที่มี ส.ส.บางคนนำไปโจมตีว่าเป็นเพราะผู้ใหญ่ในพรรคถือหุ้น ไม่เกี่ยวกันและทั้ง 2 คนก็ใช้สิทธิตามประกันสุขภาพของตัวเอง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ส.ส.เห็นต่างทาบทาม 4 อดีตนายกฯ ร่วม คกก.สมานฉันท์
ศาลยกคำร้องฝากขัง "สมยศ-อานนท์-สุรนาถ-สุรชัย"