วันนี้ (5 พ.ย.2563) กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกิจกรรมทำความสะอาดแท็กซี่สาธารณะ ซึ่งจัดโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กองกำกับความปลอดภัยนักท่องเที่ยว สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และบริษัท แกร็บแท็กซี่ (ประเทศไทย) จำกัด ณ บริเวณลานจอดรถโรงละครสยามนิรมิต กรุงเทพฯ เพื่อผลักดันให้ได้มาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย Safety and Health Administration (SHA)
นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า ในช่วงการเฝ้าระวังสถานการณ์ COVID-19 ผู้ประกอบการ หรือผู้ขับรถแท็กซี่ ควรมีการป้องกันและสร้างสุขอนามัยที่ดีอย่างต่อเนื่อง ด้วยการล้างทำความสะอาดรถทุกวันก่อนนำรถออกให้บริการ และหลังการให้บริการ โดยเน้นการเช็ดทำความสะอาดพื้นผิว 5 จุดเสี่ยงที่มีผู้โดยสารสัมผัสบ่อยๆ ได้แก่ 1.ที่จับบริเวณประตู 2.ที่จับเหนือหัวผู้โดยสาร 3.เบาะนั่ง 4.ที่เท้าแขน และ 5.กระจกภายในรถ
แนะทำความสะอาดทุกครั้งหลังผู้โดยสารลงรถ
ทั้งนี้ ควรทำความสะอาดบริเวณดังกล่าวด้วยน้ำผงซักฟอก หรือน้ำยาทำความสะอาด และแอลกอฮอล์ 70 เปอร์เซ็นต์ ทุกครั้งที่ผู้โดยสารลงจากรถเพื่อทำลายเชื้อโรค รวมทั้งจัดเตรียมหน้ากากอนามัยและเจลแอลกอฮอล์ไว้ให้บริการในกรณีที่พบผู้โดยสารมีอาการไข้ ไอ จาม และไม่สวมหน้ากากอนามัย ส่วนผู้ขับรถแท็กซี่ หากพบว่ามีไข้ ไอ จาม มีน้ำมูก เหนื่อยหอบ หรือมีอุณหภูมิร่างกายเท่ากับหรือมากกว่า 37.5 องศาเซลเซียส ให้แจ้งงดเช่ารถ และไปพบแพทย์ทันที
ที่สำคัญ ผู้ขับขี่รถแท็กซี่และผู้โดยสาร ต้องสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่อยู่ในรถแท็กซี่ และล้างมือด้วยสบู่และน้ำบ่อยๆ หรือ ทำความสะอาดมือด้วยเจลแอลกอฮอล์หลังการใช้บริการทุกครั้ง เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงการแพร่ระบาด COVID-19 ทั้งนี้ ไม่เพียงแต่รถแท็กซี่เท่านั้น ขนส่งสาธารณะประเภทอื่นๆ เช่น รถร่วมบริการ รถตู้โดยสาร MRT BTS Airport Rail Link ควรทำความสะอาดในจุดเสี่ยงที่มีการสัมผัสบ่อยๆ เป็นประจำด้วย