วันนี้ (18 พ.ย.2563) พ.ต.ท.ศรายุทธ อรุณฉาย รองผู้กำกับการควบคุมฝูงชน 1 พร้อมด้วย ร.ต.อ. พีรวุฒิ ใหม่อ่อง รอง สว.งาน 3 กองบังคับการตำรวจจราจร และเจ้าหน้าที่ตำรวจงานช่างเครื่อง งานตรวจพิสูจน์กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) พาสื่อมวลชน สำรวจรถที่เสียหายจากการปะทะกับผู้ชุมนุมที่หน้ารัฐสภา แยกเกียกกาย เมื่อวานนี้วานนี้ (17 พ.ย.)
พบว่ามีรถที่เสียหายทั้งหมด 6 คัน แบ่งเป็นรถฉีดน้ำแรงดันสูงเสียหาย 3 คัน รถเติมน้ำ 2 คัน รถควบคุมผู้ต้องหา 1 คัน รถบัส 4 คัน
ร.ต.อ.พีรวุฒิ กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบความเสียหายหลักๆ อยู่ที่ถังน้ำมัน มีการกรอกทรายและใส่เศษขยะ จนเครื่องยนต์เสียหาย นอกจากนี้ภายในรถยังมีแผงควบคุมการฉีดน้ำไฟฟ้า ถูกราดน้ำใส่จนช็อตเสียหาย และตัดสายไฟทิ้งทั้งหมด ซึ่งหากส่งซ่อมแซมต้องเดินระบบใหม่ทั้งคัน ซึ่งทางผู้บังคับบัญชาจะดำเนินการต่อไป
พ.ต.ท.ศรายุทธ กล่าวว่า ตำรวจปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ยืนยันว่า รถควบคุมฝูงชน เป็นรถเพื่อใช้ในการรักษาความสงบเรียบร้อย ไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต ซึ่งนอกจากรถตำรวจ มีรายงานว่ารถโดยสาร สาธาณะเอกชน ที่ตำรวจขอมาปิดกั้น การชุมนุม ก็ได้รับความเสียหายเช่นกัน
สำหรับรถฉีดน้ำแรงดันสูง หรือ จีโน่ ที่ใช้สำหรับควบคุมฝูงชน ซึ่งรถคันนี้นำเข้าจากประเทศเกาหลีใต้ ราคา 25 ล้านบาท มีคุณสมบัติพิเศษต่างจากรถฉีดน้ำแรงดันสูงทั่วไป ดังนีั มีล้อกันกระสุนมีตะแกรงป้องกันกระจกรอบคัน มีคันกั้นเหล็กหน้ารถใช้เคลียร์พื้นที่ มีกล้องวงจรปิดรอบคัน มีกระบอกฉีดน้ำ บรรจุน้ำ 12,000 ลิตร ฉีดระยะไกลสูงสุด 65 เมตร มีการติดตั้งเครื่องเสียงความถี่สูง เรียก LRAD (Long Range Acoustic Device) หรือเครื่องขยายเสียงระดับไกล
รถฉีดน้ำแรงดันสูง ถูกใช้ครั้งแรกในการชุมนุม ปี 2556 ซึ่งใช้ฉีดน้ำกระชับพื้นที่การชุมนุม ซึ่งน้ำที่ถูกฉีดออกไปนั้น นอกจากจะใส่สีเพื่อแยกระหว่างฝั่งตำรวจและผู้ชุมนุม อาจมีการผสมสารเคมี เช่น แก๊สน้ำตา ใช้สำหรับการสลายการชุมนุมด้วย
โดยในการสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมาที่แยกปทุมวัน รถฉีดน้ำได้ถูกนำมาใช้ในภารกิจอีกครั้ง และถูกนำไปใช้ในการชุมนุมตลอดช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ตร.ปัดใช้กระสุนคุมชุมนุม-เก็บหลักฐานเหตุปะทะแยกเกียกกาย
ตร.ฉีดน้ำผสมแก๊สน้ำตาสกัดมวลชน หลังประชิดแนวกั้นใกล้รัฐสภา
เปิดข้อมูลรถฉีดน้ำแรงดันสูง คันละ 25 ล้าน ใช้คุมฝูงชน