วันนี้ (5 ธ.ค.2563) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข เปิดเผยว่า ขณะนี้การแพร่กระจายเชื้อ COVID-19 ในจังหวัดภาคเหนือ เริ่มต้นมาจากในพื้นที่ จ.เชียงใหม่และเชียงราย ยังไม่กระจายไปทั่วประเทศ
ขณะนี้พยายามให้คนไทยที่ทำงานในฝั่ง จ.ท่าขี้เหล็ก กลับมาแสดงตน โดยไทยจะอำนวยความสะดวกให้ทุกอย่าง ทั้งการกักกันตัว การตรวจเชื้อ และรักษา โดยจะประสานกระทรวงการต่างประเทศ ข้ามขั้นตอนในการติดต่อสถานทูต ที่เรียกว่า COE เพื่อให้คนไทยในท่าขี้เหล็กเข้ามาได้
นายอนุทินกล่าวว่า ไม่น่าจะมีเชื้อจากต่างประเทศเข้ามาเพิ่มเติม เพราะโอกาสที่จะมีการแพร่เชื้อเป็นเฉพาะกลุ่มแรกเท่านั้น ซึ่งจะใช้ระบบสาธารณสุข ในการตรวจคนที่สัมผัสทั้งเสี่ยงสูงและเสี่ยงต่ำ
ขอความร่วมมือจากประชาชนที่เดินทางจาก จ.ท่าขี้เหล็ก ให้ขอรับการตรวจเชื้อ โดยไม่ต้องมีความกังวลใดๆ เพราะไทยมีความพร้อมในการรักษา ทั้งด้านเวชภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆ
นายอนุทินกล่าวต่อว่า หากมีความเข้าใจ ก็ไม่จำเป็นต้องล็อกดาวน์ ปิดประเทศหรือปิดจังหวัด แต่ขอร้องว่าทุกคนที่เดินทางเข้ามา จะต้องเข้ารับการตรวจเชื้อ
ขณะเดียวกันไม่ต้องกังวลเรื่องจัดกิจกรรม เช่น งานคอนเสิร์ต อีเว้นท์ต่างๆ ทุกอย่างยังคงดำเนินกิจกรรมได้ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลปีใหม่ แต่ทั้งนี้ต้องป้องกันตัวเองและระมัดระวัง ด้วยการสวมหน้าอนามัย ส่วนประชาชนที่จะไปท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดยาวนี้ ก็สามารถเดินทางไปได้ เนื่องจากเชื้อเหล่านี้แพร่ระบาดในวงจำกัด
ส่วนที่มีข้อกังวลกับการชุมนุมว่า จะทำให้จะเกิดการแพร่ระบาดระลอก 2 หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า เป็นคนละเรื่องกัน ขณะนี้เป็นการควบคุมสถานที่ที่มีการแพร่กระจาย และความเดือดร้อนอยู่ที่ภาคเหนือ
ทั้งนี้นายอนุทินจะลงพื้นที่ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ ที่ปฏิบัติงานบริเวณหน้าด่าน พร้อมขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกจนเกินไป เนื่องจากสภาพของประเทศไทยในตอนนี้ สามารถรับมือได้ กับสถานการณ์ COVID-19 ทั้งด้านอุปกรณ์และบุคลากรด้านกระทรวงสาธารณสุข
พร้อมระบุว่า สามารถควบคุมได้ แม้จะมีการแพร่ระบาด ขณะเดียวกันอีก 6 เดือนก็จะมีวัคซีน เพื่อที่จะรุกและรับมือกับโรคนี้ และยืนยันว่าจะไม่มีการปิดประเทศ ปิดจังหวัด