วันนี้ (5 ธ.ค.2563) กลุ่มที่ระบุชื่อว่า อาศรมสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ออกแถลงการณ์ ระบุว่า ด้วยขณะนี้เริ่มมีกระแสเรียกร้อง “#ยุบธรรมศาสตร์” เกิดขึ้นทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ เนื่องจาก มีคณะอาจารย์และนักศึกษาปัจจุบันจำนวนหนึ่ง เคลื่อนไหวทางการเมือง เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่บิดเบือน ให้ร้ายต่อสถาบันฯ อย่างต่อเนื่อง อันเป็นที่ประจักษ์ชัดในหลายวาระ สร้างความเดือดร้อนเสียหายเป็นอันมากแก่ประเทศชาติ
กลุ่มศิษย์เก่า และคณาจารย์อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งได้รวมตัวเป็น “อาศรมสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา” ขอประกาศแถลงการณ์ไม่เห็นด้วย กับการกระทำของกลุ่มบุคคล คณาจารย์และนักศึกษาดังกล่าว ที่สร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงให้กับคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา รวมทั้งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
“อาศรมสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา” ขอเป็นตัวแทนพลังเงียบชี้แจงให้ประชาชนคนไทยได้รับทราบว่า ยังมีประชาคมชาวธรรมศาสตร์ ที่ยึดมั่นในประโยชน์สุขของประชาชน และเคารพในชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ความรู้ทางสังคมวิทยาและมานุษยวิทยาได้รับการยกย่องให้เป็น Queen of Science ที่ผู้เรียนและผู้นำไปใช้จะต้องมีการค้นคว้าวิจัยให้เกิดข้อมูลเชิงประจักษ์ ที่เหมาะสมกับบริบทของสังคมและวัฒนธรรม
ที่ศึกษาทฤษฎีหลากหลายที่มาจากสังคมใดสังคมหนึ่ง ไม่อาจจะอธิบายปรากฏการณ์ของอีกสังคมได้ จนกว่าจะเชื่อมโยงให้เห็นตรรกะที่เป็นสากล แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า นักสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา จะสร้างชุดความจริงทางสังคมได้จากจุดใดจุดหนึ่งของประวัติศาสตร์ของชาตินั้นๆ การกล่าวอ้างของกลุ่มที่เคลื่อน ไหวนี้ไม่เป็นไปตามหลักการทางวิทยาศาสตร์ของสังคมวิทยาฯ และยังขาดการค้นคว้าอย่างเป็นรูปธรรม
กลุ่มเคลื่อนไหวชูสามนิ้วและกลุ่มที่อ้างชื่อธรรมศาสตร์ ได้บิดเบือนข้อมูลด้วยความเท็จและการแสดงความเห็นส่วนตัว ถือเป็นการไม่เคารพต่อหลักวิชาการ ขาดความเคารพต่อหลักการของธรรมศาสตร์ ที่เน้นให้ใช้ธรรมะ(ความเป็นธรรม) นำศาสตร์ คณะบุคคลดังกล่าวขาดธรรมะ ขาดความชอบธรรม
การอ้างชื่อสถาบันการศึกษานี้ เพื่อผลประโยชน์บางประการ และปลุกระดมให้คนเห็นผิดทางแนวคิดด้วย วาทกรรมและสื่อสัญลักษณ์ที่ดูถูกเหยียดหยามบุคคลอื่นที่เห็นต่าง หมิ่นพระเกียรติของบูรพกษัตริย์ ทำตัวละเมิด กฎหมายและสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน
โดยเฉพาะการเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของคนอื่นด้วยการ กล่าวผรุสวาทในที่สาธารณะ ยุยงให้มีการทาลายสาธารณสมบัติ ทาให้เกิดความเดือดร้อนแก่ประชาชนโดยทั่วไป
ข้อเรียกร้องต่าง ๆ ที่ผ่านมา ไม่ได้มาจากการศึกษาวิจัยหรือการใช้หลักการอันเป็นประโยชน์แก่ ประชาชนคนไทยส่วนใหญ่ของประเทศ ถือเป็นการสร้างความแตกแยก บ่อนทำลายประชาธิปไตยและเสรีภาพของบุคคลอื่นในสังคม ทั้งยังเป็นการทำตัวอยู่เหนือกฎหมายและทาลายวัฒนธรรมอันดีงามของประเทศชาติอีกด้วย
การชักชวนคนหนุ่มสาวเด็กนักเรียนออกมาเดินขบวน โดยการยุยงปลุกปั่นทำให้เกิด ความร้าวฉานในสถาบันครอบครัว และทำร้ายเยาวชนกันเอง ด้วยการสร้างความเสี่ยงให้เยาวชนกระทำผิดกฎหมาย และการออกมาชุมนุมโดยปราศจากมาตรการป้องกันการติดเชื้อโควิด ล้วนเป็นการกระทำอันไม่ คำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมและเป็นภัยต่อสังคม ทั้งยังเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนของผู้อื่นอย่างชัดเจน
“อาศรมสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา” จึงขอเรียกร้องให้ผู้บริหาร มหาวิทยาลัยคัดชื่อบุคคลเหล่านั้นออกจากสถาบัน และเรียกร้องให้เหล่าคณาจารย์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่อยู่ในกลุ่ม 1,118 คน ลาออก จากการเป็นอาจารย์ตามคำขาดที่ยื่นต่อนายกรัฐมนตรี
และให้บุคคลดังกล่าวยุติการกล่าวอ้างชื่อมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในการประชาสัมพันธ์ เพื่อให้เกิดการชุมนุมในทุกกรณี อธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และสภามหาวิทยาลัย ควรดาเนินการอย่างเร่งด่วนในการกอบกู้ศักดิ์ศรีของชาวธรรมศาสตร์กลับคืนมา
สำหรับ สมาชิกอาศรมสังคมวิทยาและมานุษยวิทยาและผู้เห็นด้วยกับแถลงการณ์ฉบับนี้
สิรินภรณ์ เชฎฐากุล สายใจ คุ้มขนาบ คณิต ลิมปิพิชัย ธันวดี เสียงชื่นจิตร
พงษธร พัฒนไพรสณฑ์ เสาวนีย์ สุวรรณะบุณย์ นิเวศน์ จิระเลิศพงศ์ชัย อารีย์ เหลืองสุวรรณ
สิทธิชัย ทองอรุณแสง กาญจนา ชัยรัตน์ ธีรนุช พัวประดิษฐ์ พิสณฑ์ กุลชนตรัยสิทธิ์อภิชัย สุทธาโรจน์ ไศลทิพย์ ภิญญสาสน์ ประสงค์ จงอัศญากุล เสาวนีย์ ตนะดุลย์ เรวดี จันทะยาสาคร สุชัย วีระวัฒนานันท์ นววรรณ ศิริพงษ์ วินัย งามผาติพงศ์
สุรัติ เลิศวรวนิช หทัยรัตน์ โชติพานิช ปนัดดา จันทร์ศรี ดวงกมล สุดสวาท
สุนีรัตน์ ภัทรชานนท์ มะลิ ลิวนานนท์ชัย สุสิณี ตั้งสิน ลดาณี สินสถิตโรจน์
สุวจี กู๊ด สุพัชรา มั่นพลศรี วิภาพูนเพียร กิตติยา เชาวลิต
อมรรัตน์ มลิทอง รัตนา ดุริยะบรรเลง สุธาสินี สุวรรณสรางค์ ฟี้จิน องค์วัฒนะพัฒน์ นวรัตน์ สุภะธรรมกิจ ทิศาชล กาญจนสุนทร พงษ์สถิต ไพศาลสุจารีกุล มานิกา ปฐมชัยวัฒน์ สุรี ส่งเกรียงไกร ปริญ มาลากุล ณ อยุธยา สุนีย์ พิบูลย์ลาภอุดม มานะ กนกเวชยันต์ ทวีศักดิ์ ราภาทอง โสภา ศรีสวรรค์