ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

127 ชิ้นฟอสซิล “วาฬอำแพง” ช่วยไขคำตอบรอยอดีต

Logo Thai PBS
127 ชิ้นฟอสซิล “วาฬอำแพง” ช่วยไขคำตอบรอยอดีต
กรมทรัพยากรธรณี ร่วมกับ ทช.เร่งไขคำตอบฟอสซิล ”วาฬอำแพง” หลังปฏิบัติการเก็บกู้ชิ้นส่วน 127 ชิ้นที่สมบูรณ์ โดยส่งตรวจหาอายุที่สหรัฐอเมริกา และหาคำตอบสายพันธุ์ของวาฬที่ชัดเจน

วันนี้ (15 ธ.ค.2563) นายสมหมาย เตชวาล อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี กล่าวว่า ทีมสำรวจจากกรมทรัพยากรธรณีได้เริ่มปฏิบัติการเก็บกู้โครงกระดูกวาฬอำแพง ตั้งแต่วันที่ 9 พ.ย. - 5 ธ.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุดพบชิ้นส่วนกระดูกเกือบสมบูรณ์ทั้งตัว ประกอบด้วย กระดูกสันหลัง ซี่โครง กะโหลกและขากรรไกรและแขนและมือ (ครีบ) ข้างขวา ซึ่งถือว่าสมบูรณ์กว่าร้อยละ 90 รวมจำนวน 127 ชิ้น ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนอนุรักษ์ตัวอย่างที่ห้องปฏิบัติการพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติธรณีวิทยาเฉลิมพระเกียรติ จ.ปทุมธานี

ภาพ : กรมทรัพยากรธรณี

ภาพ : กรมทรัพยากรธรณี

ภาพ : กรมทรัพยากรธรณี

 

จากตัวอย่างทั้งหมด 127 ชิ้น ได้ทำการอนุรักษ์ตัวอย่างเสร็จสิ้นแล้ว 69 ชิ้น ประกอบไปด้วย กระดูกซี่โครง 25 ชิ้น กระดูกหน้าอก 1 ชิ้น แขนและมือ (ครีบ) ข้างซ้าย 27 ชิ้น กระดูกสันหลัง 16 ชิ้น ส่วนการหาอายุกำลังอยู่ระหว่างการวิเคราะห์ ซึ่งได้มีการส่งตัวอย่างกระดูกไปวิเคราะห์หาอายุจากธาตุคาร์บอน-14 (C-14) โดยใช้วิธีการวัดมวลด้วยเครื่องเร่งอนุภาค (Accelerator Mass Spectrometer-AMS) ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา

รองานวิจัยยืนยันสายพันธุ์วาฬโบราณ

นางสุมนา ขจรวัฒนากุล ผอ.สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่ง กล่าวว่า จากการตรวจสอบในเบื้องต้น พบว่าเป็น Balaenopteta edeni ขนาดใหญ่ ทั้งนี้ ต้องรอการเปิดเฝือกในส่วนกะโหลก เพื่อค้นหากระดูกส่วนหู เพื่อยืนยันอีกครั้ง

จากพบโครงกระดูกวาฬบนแผ่นดิน ซึ่งห่างจากชายฝั่งทะเลปัจจุบันประมาณ 12 กิโลเมตรในครั้งนี้ เป็นหลักฐานสำคัญที่บ่งชี้ถึงการรุกของน้ำทะเลเข้ามาในแผ่นดินเมื่อหลายพันปีก่อน

รวมทั้งยังช่วยศึกษาประวัติและวิวัฒนาการของวาฬและสัตว์ทะเลในอดีต และได้เห็นถึงความหลากหลายทางชีวภาพจากการพบซากสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ร่วมกับวาฬ นอกจากนี้ผลที่ได้จากการสำรวจด้วยวิธีการเจาะสำรวจศึกษาชั้นตะกอนดินและเทียบสัมพันธ์ ยังช่วยในการแปลความหมายถึงสภาพแวดล้อมในอดีต การหาขอบเขตชายทะเลโบราณในพื้นที่ราบลุ่มเจ้าพระยา และศึกษาการเปลี่ยนแปลงระดับน้ำทะเลในปัจจุบันและอนาคตที่มีผลจากปัจจัยทางธรณีวิทยาและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกซึ่งจะได้มอบหมายให้กรมทรัพยากรธรณีดำเนินการศึกษาวิจัยในเรื่องนี้ต่อไป

ภาพ : กรมทรัพยากรธรณี

ภาพ : กรมทรัพยากรธรณี

ภาพ : กรมทรัพยากรธรณี

จับมือสถาบันศึกษาไขคำตอบม.ค.64

นอกจากนี้ยังมีสถาบันการศึกษาต่างๆ เช่น มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) เพื่อร่วมกันไขข้อมูลจากโครงกระดูกวาฬในครั้งนี้ ซึ่งกรมทรัพยากรธรณีจะได้จัดให้มีการนำเสนอผลงานทางวิชาการในปลายเดือนม.ค. 2564

ภาพ : กรมทรัพยากรธรณี

ภาพ : กรมทรัพยากรธรณี

ภาพ : กรมทรัพยากรธรณี

 

สำหรับแนวทางการบริหารจัดการโครงกระดูกวาฬในเบื้องต้น ต้องทำการหารือร่วมกัน กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากโครงกระดูกมีขนาดใหญ่ สภาพกระดูกมีความเปราะบาง ผุพังง่าย ต้องเตรียมสถานที่สำหรับโครงกระดูกวาฬให้มีความเหมาะสมทั้งเรื่องอุณหภูมิ พื้นที่ในการจัดแสดงและอื่น ๆ โดยกรมทรัพยากรธรณี จะได้ทำการจัดเก็บไว้ในพื้นที่พิพิธภัณฑ์ระหว่างการจัดหาสถานที่ที่เหมาะสมต่อไป

ภาพ : กรมทรัพยากรธรณี

ภาพ : กรมทรัพยากรธรณี

ภาพ : กรมทรัพยากรธรณี

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง