แม้ใน 8 อำเภอของ จ.นราธิวาส จะประสบปัญหาน้ำท่วม และในบางหน่วยเลือกตั้งเจ้าหน้าที่ต้องจัดให้มีการลงคะแนนในพื้นที่ถูกน้ำท่วม แต่หลังปิดหีบลงคะแนนเลือกตั้งใน จ.นราธิวาส ผลการนับคะแนน นายกูเซ็ง ยาวอหะซัน อดีตนายก อบจ.นราธิวาส 3 สมัย สามารถครองแชมป์ได้อีกสมัย โดยได้คะแนน 189,062 คะแนน เอาชนะคู่แข่งอย่างนาย นายรำรี มามะ ผู้สมัครอิสระ อย่างสูสี ซึ่งได้คะแนน 147,756 คะแนน ส่วนนายคอยรูซามัน มะ จากคณะก้าวหน้า ได้คะแนน 21,841 คะแนน
ส่วนที่ จ.ยะลา เมื่อกลางดึกที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่เร่งติดตั้งการประกาศผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการโดยนายมุขตาร์ มะทะ อดีต นายก อบจ.ยะลาได้นั่งเก้าอี้นายก อบจ.อีกสมัยโดยได้คะแนนเสียง 168,714 คะแนน เอาชนะคู่แข่งอย่างนายอับดุลลาเตะ ยากัด ได้ 39,671 คะแนนโดยระหว่างการนับคะแนนมีกองเชียร์มารอลุ้น
ส่วนที่ จ.ปัตตานี ผลการเลือกตั้ง นายกอบจ.ไม่พลิกโผเช่นกัน นายเศรษฐ์ อัลยุฟรี อดีตนายก อบจ.3 สมัย ได้ครองเก้าอี้อีกสมัย ด้วยคะแนนเสียงที่ 201,086 คะแนน เอาชนะคู่แข่งคือ นายรุสดี สารอเฮง ที่ได้คะแนน 95,920 คะแนน
ขณะที่สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดทั้ง 3 จังหวัด จังหวัดละ 30 คน จาก 30 เขต พบว่า ส่วนใหญ่ไม่พลิกโผมากนัก แต่ในบางเขตเลือกตั้งก็มีผู้สมัครหน้าใหม่เข้ามาสอดแทรกได้ในบางเขตเลือกตั้ง นอกจากนี้ยังเป็นที่น่าสังเกตว่า หลายคนเลือกกาช่องไม่เลือกผู้สมัครใดจำนวนไม่น้อย
ทั้งนี้ โดยภาพรวมของการเลือกตั้งใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เมื่อวานนี้ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีความกังวลเรื่องความไม่ปลอดภัยเพราะก่อนการเลือกตั้ง 2 วัน เกิดเหตุก่อกวนขึ้นหลายจุด รวมถึงปัญหาน้ำท่วมในหลายพื้นที่
อย่างไรก็ตาม งานหนักสำหรับนายก อบจ.และสมาชิก อบจ.ต่อไปจากนี้ คือ การรับมือการระบาดของไวรัส COVID-19 อีกครั้ง โดยเฉพาะการเป็นเมืองชายแดนที่ยังพบการลักลอบข้ามประเทศโดยผิดกฎหมายของแรงงานข้ามชาติจากประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงปัญหาความไม่สงบ ปัญหาปากท้อง ปัญหาด้านการศึกษา รวมถึงการบริหารจัดการงบประมาณรวม 3 จังหวัด ผ่าน อบจ.ทั้ง 3 แห่ง ที่สูงกว่า 1,200 ล้านบาทต่อปี