ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ครม.ผ่อนผันแรงงาน 3 สัญชาติทำงานเป็นกรณีพิเศษ

การเมือง
29 ธ.ค. 63
22:34
5,909
Logo Thai PBS
ครม.ผ่อนผันแรงงาน 3 สัญชาติทำงานเป็นกรณีพิเศษ
มติ ครม.ผ่อนผันให้คนต่างด้าว 3 สัญชาติ (กัมพูชา ลาว และเมียนมา) อยู่ในราชอาณาจักร และทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายเป็นกรณีพิเศษ ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ระลอกใหม่

วันนี้ (29 ธ.ค.2563) ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงแรงงานเสนอการผ่อนผันให้คนต่างด้าว 3 สัญชาติ (กัมพูชา ลาว และเมียนมา) อยู่ในราชอาณาจักร และทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายเป็นกรณีพิเศษ ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ระลอกใหม่ โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ดังนี้

1.กระทรวงมหาดไทย ดำเนินการ

1.1 ออกประกาศกระทรวงมหาดไทย โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 17 แห่งพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2522 ให้คนต่างด้าวรวมถึงผู้ติดตามซึ่งเป็นบุตรของคนต่างด้าวที่มีสิทธิอยู่ในราชอาณาจักรตามสิทธิของคนต่างด้าวซึ่งเป็นบิดาหรือมารดาอยู่ในราชอาณาจักรเป็นการเฉพาะ

เพื่อดำเนินการตามแนวทางการผ่อนผันให้คนต่างด้าว 3 สัญชาติ (กัมพูชา ลาว และเมียนมา) อยู่ในราชอาณาจักร และทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายเป็นกรณีพิเศษ ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ระลอกใหม่

และมิให้นำมาตรา 12 (10) และมาตรา 54 แห่งพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2522 มาใช้บังคับแก่คนต่างด้าวที่ได้ดำเนินการตามแนวทางดังกล่าว รวมถึงกำหนดการสิ้นผลของการอยู่ในราชอาณาจักรเป็นการเฉพาะของคนต่างด้าว

ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยได้ยกร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การอนุญาตให้คนต่างด้าวบางจำพวกอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ... ธันวาคม พ.ศ.2563

1.2 ให้กรมการปกครองและกรุงเทพมหานคร ดำเนินการจัดทำหรือปรับปรุงทะเบียนประวัติ และออกบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย ให้แก่คนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว และเมียนมา รวมถึงผู้ติดตามซึ่งเป็นบุตรของคนต่างด้าว

ตามแนวทางการผ่อนผันให้คนต่างด้าว 3 สัญชาติ (กัมพูชา ลาว และเมียนมา) อยู่ในราชอาณาจักร และทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายเป็นกรณีพิเศษภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ระลอกใหม่

2.กระทรวงสาธารณสุข ดำเนินการ

ให้สถานพยาบาลที่กระทรวงสาธารณสุข กำหนด สถานพยาบาลที่กรมการแพทย์ กำหนด และสถานพยาบาลที่สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร กำหนด ดำเนินการ ดังนี้

2.1 ตรวจคัดกรองโควิด-19 และตรวจโรคต้องห้าม คนต่างด้าวรวมถึงผู้ติดตามซึ่งเป็นบุตรของคนต่างด้าว โดยใช้แบบแจ้งข้อมูลบุคคล เป็นหลักฐานแสดงตน และออกใบรับรองผลการตรวจสุขภาพ

2.2 ประกันสุขภาพคนต่างด้าว รวมถึงผู้ติดตามซึ่งเป็นบุตรของคนต่างด้าว เป็นระยะเวลา 2 ปี ตามแนวทางการผ่อนผันให้คนต่างด้าว 3 สัญชาติ (กัมพูชา ลาว และเมียนมา)

อยู่ในราชอาณาจักร และทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายเป็นกรณีพิเศษ ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ระลอกใหม่ โดยสถานพยาบาลต้องตรวจสุขภาพ และออกผลการตรวจสุขภาพ (ใบรับรองแพทย์) ให้เป็นไปตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข

3.กระทรวงแรงงาน ดำเนินการ

3.1 ออกประกาศกระทรวงแรงงาน โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 14 แห่งพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ออกประกาศอนุญาตให้คนต่างด้าวทำงาน ตามแนวทางการผ่อนผันให้คนต่างด้าว 3 สัญชาติ (กัมพูชา ลาว และเมียนมา) อยู่ในราชอาณาจักร และทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายเป็นกรณีพิเศษ ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ระลอกใหม่

ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานได้ยกร่างประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง การอนุญาตให้คนต่างด้าวทำงานในราชอาณาจักรเป็นการเฉพาะ สำหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว และเมียนมา ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่...................

3.2 ออกกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว สำหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว และเมียนมา ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานได้ยกร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว สำหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว และเมียนมา ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ........................

3.3 ให้กรมการจัดหางานเริ่มดำเนินการรับแจ้งรายชื่อ หรือแบบข้อมูลบุคคล ตามแนวทางการผ่อนผันให้คนต่างด้าว 3 สัญชาติ (กัมพูชา ลาว และเมียนมา) อยู่ในราชอาณาจักร และทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายเป็นกรณีพิเศษ ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ระลอกใหม่ ตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2564 เป็นต้นไป

4.ให้กระทรวงแรงงาน โดยกรมการจัดหางาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ แนวทางการผ่อนผันให้คนต่างด้าว 3 สัญชาติ (กัมพูชา ลาว และเมียนมา) อยู่ในราชอาณาจักร และทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายเป็นกรณีพิเศษ ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส
โคโรนา 2019 ระลอกใหม่ ให้นายจ้าง/สถานประกอบการ คนต่างด้าว และผู้ที่เกี่ยวข้อง ได้รับทราบข้อมูลอย่างถูกต้องทั่วถึง

5.หลังสิ้นสุดระยะเวลาการยื่นบัญชีรายชื่อ หรือการแจ้งแบบข้อมูลบุคคล ตามแนวทางการผ่อนผันให้คนต่างด้าว 3 สัญชาติ (กัมพูชา ลาว และเมียนมา) อยู่ในราชอาณาจักร และทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายเป็นกรณีพิเศษ ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ระลอกใหม่

ให้หน่วยงานด้านความมั่นคงดำเนินการตรวจสอบ ปราบปราม จับกุมดำเนินคดี คนต่างด้าวเข้าเมืองผิดกฎหมาย หรือทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต และผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด

สาระสำคัญ

การผ่อนผันให้คนต่างด้าว 3 สัญชาติ (กัมพูชา ลาว และเมียนมา) อยู่ในราชอาณาจักร และทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายเป็นกรณีพิเศษ ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ระลอกใหม่ มีแนวทางการดำเนินการ ดังนี้

1.กลุ่มเป้าหมาย : คนต่างด้าว 3 สัญชาติ (กัมพูชา ลาว และเมียนมา) ที่อยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด หรือหลบหนีเข้าเมือง ดังนี้
1.1 คนต่างด้าวที่มีนายจ้าง/สถานประกอบการ ประสงค์จ้างงาน รวมถึงผู้ติดตามซึ่งเป็นบุตรของคนต่างด้าวดังกล่าวที่มีอายุไม่เกิน 18 ปี
1.2 คนต่างด้าวที่ไม่ได้ทำงาน รวมถึงผู้ติดตามซึ่งเป็นบุตรของคนต่างด้าวดังกล่าว ที่มีอายุไม่เกิน 18 ปี


2.การดำเนินการ : แบ่งการดำเนินการตามกลุ่มเป้าหมายในข้อ 1. ดังนี้ 2.1 คนต่างด้าวตามข้อ 1.1 ให้นายจ้าง/สถานประกอบการ ดำเนินการ ดังนี้

1) แจ้งรายชื่อคนต่างด้าวตามวิธีการที่กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน กำหนด ระหว่างวันที่ 15 มกราคม พ.ศ.2564 ถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2564

2) ให้คนต่างด้าวเข้ารับการตรวจคัดกรองโควิด – 19 และโรคต้องห้ามตามวิธีการที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด โดยใช้บัญชีรายชื่อตามข้อ 1) เป็นหลักฐานแสดงตน และประกันสุขภาพเป็นระยะ 2 ปี ภายในวันที่ 16 เมษายน พ.ศ.2564


3) เมื่อผ่านการตรวจคัดกรองโควิด – 19 และโรคต้องห้ามแล้ว ให้ยื่นคำขออนุญาตทำงานแทนคนต่างด้าวตามวิธีการที่กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงานกำหนด ภายในวันที่ 13 กันยายน พ.ศ.2564

4) ให้คนต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตทำงานไปจัดทำทะเบียนประวัติคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทยที่มีใบอนุญาตทำงานอยู่ด้านหลังของบัตรตามวิธีการที่กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทยกำหนด ภายในวันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ.2564

2.2 คนต่างด้าวตามข้อ 1.2 ให้ดำเนินการ ดังนี้

1) แจ้งแบบข้อมูลบุคคลตามวิธีการที่กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน กำหนด ระหว่างวันที่ 15 มกราคม พ.ศ.2564 ถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

2) เข้ารับการตรวจคัดกรองโควิด-19 ตรวจโรคต้องห้าม ตามวิธีการที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด โดยใช้แบบแจ้งข้อมูลบุคคลตามข้อ 1) เป็นหลักฐานแสดงตน และประกันสุขภาพเป็นระยะ 2 ปี ภายในวันที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2564

3) จัดทำทะเบียนประวัติคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย ตามวิธีการที่กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทยกำหนด ภายในวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ.2564

4) เมื่อผ่านการตรวจคัดกรองโควิด-19 และโรคต้องห้าม และจัดทำทะเบียนประวัติคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทยกับกระทรวงมหาดไทยแล้ว ให้นายจ้าง/สถานประกอบการ ที่ประสงค์จะรับ คนต่างด้าวดังกล่าวเข้าทำงาน ยื่นคำขออนุญาตทำงานแทนคนต่างด้าวตามวิธีการที่กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงานกำหนด ภายในวันที่ 13 กันยายน พ.ศ.2564

5) ให้คนต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตทำงานไปปรับปรุงทำทะเบียนประวัติคนซึ่งไม่มี สัญชาติไทยที่มีใบอนุญาตทำงานอยู่ด้านหลังของบัตร ตามวิธีการที่กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทยกำหนด

2.3 ผู้ติดตามซึ่งเป็นบุตรของคนต่างด้าวดังกล่าวที่มีอายุไม่เกิน 18 ปี ให้ดำเนินการ ดังนี้

1) แจ้งรายชื่อหรือแบบข้อมูลบุคคลแล้วแต่กรณี ตามวิธีการที่กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงานกำหนด ระหว่างวันที่ 15 มกราคม พ.ศ.2564 ถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2564

2) เข้ารับการตรวจคัดกรองโควิด-19 ตรวจโรคต้องห้าม ตามวิธีการที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด โดยใช้บัญชีรายชื่อหรือแบบแจ้งข้อมูลบุคคลตาม 1) แล้วแต่กรณี เป็นหลักฐานแสดงตน และประกันสุขภาพเป็นระยะ 2 ปี ภายในวันที่ 16 เมษายน พ.ศ.2564

3) จัดทำทะเบียนประวัติคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย ตามวิธีการที่กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทยกำหนด ภายในวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ.2564

3.การดำเนินการทางกฎหมาย ดังนี้

3.1 กระทรวงมหาดไทย อาศัยอำนาจตามมาตรา 17 แห่งพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2522 ออกประกาศอนุญาตให้คนต่างด้าว รวมถึงผู้ติดตามซึ่งเป็นบุตรของคนต่างด้าวดังกล่าวที่มีอายุไม่เกิน 18 ปี อยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ ตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ ถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2566

โดยให้นายจ้าง/สถานประกอบการ และคนต่างด้าว ปฏิบัติตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ในข้อ 2.และเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในประกาศกระทรวงแรงงานตาม (2) หากนายจ้าง/สถานประกอบการ และคนต่างด้าว ไม่ปฏิบัติตามขั้นตอน และเงื่อนไขดังกล่าว ให้ถือว่าการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรสิ้นสุด

3.2 กระทรวงแรงงาน อาศัยอำนาจตามมาตรา 14 แห่งพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ออกประกาศอนุญาตให้คนต่างด้าวทำงาน

โดยกำหนดเงื่อนไขเกี่ยวกับการทำงาน และการดำเนินการตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ในข้อ 2.1 และข้อ 2.2 ทั้งนี้ ออกกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมใบอนุญาตทำงานของคนต่างด้าวดังกล่าว เพื่อให้การจัดเก็บค่าธรรมเนียมใบอนุญาตทำงานเป็นไปด้วยความเท่าเทียมกัน


4.ผู้ติดตามซึ่งเป็นบุตรของคนต่างด้าวดังกล่าว ซึ่งต่อมามีอายุครบ 15 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป และสามารถทำงานได้ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน หากนายจ้าง/สถานประกอบการ ประสงค์จ้างงาน ให้ยื่นคำขออนุญาตทำงานแทนคนต่างด้าว ตามวิธีการที่กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง