วันนี้ (12 ม.ค.2564) สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของ COVID-19 ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทย และทุกประเทศทั่วโลกในวงกว้าง รัฐบาลหลายประเทศได้กู้เงินเพื่อใช้แก้ไขปัญหาและรองรับผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19 ส่งผลให้ระดับหนี้ของโลก (Global Debt) ปี 2563 อยู่ที่ระดับ 277 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 15 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ จากปีก่อนหน้า
นอกจากนี้ เมื่อพิจารณาประเทศที่ประสบปัญหา COVID-19 พบว่า ล้วนมีสัดส่วนหนี้ภาครัฐบาล (General Government Debt) ต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) เพิ่มขึ้นโดย IMF ได้คาดการณ์ว่า ณ สิ้นปี 2563 หนี้ภาครัฐบาลของกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว (Advanced Country) หลายประเทศจะอยู่ในระดับเกินกว่าร้อยละ 100 เช่น ญี่ปุ่น ร้อยละ 266 กรีซ ร้อยละ 205 อิตาลี ร้อยละ 162) และสหรัฐอเมริกา ร้อยละ 131 ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับหลายประเทศในกลุ่มภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่จะอยู่ระดับเกินกว่าร้อยละ 60 เช่น สิงคโปร์ ร้อยละ 131 และมาเลเซีย ร้อยละ 68 อย่างไรก็ดี สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะคาดการณ์ว่า ณ สิ้นปีงบประมาณ 2564 สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP ของประเทศไทยจะเท่ากับร้อยละ 56.03 ซึ่งยังคงอยู่ภายใต้กรอบวินัยทางการคลังที่กำหนดไว้ไม่เกินร้อยละ 60