วันนี้ (13 ม.ค.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงยุติธรรม และสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐอเมริกา หรือ เอฟบีไอ เปิดเผยว่า ได้ติดตามจับตัวและตั้งข้อหาผู้ก่อเหตุจลาจลที่อาคารรัฐสภาได้แล้ว 70 คน กำลังเปิดการสอบสวนอีกกว่า 160 คดี และสามารถระบุตัวผู้ร่วมก่อเหตุได้แล้ว 170 คน
ขณะนี้มีประชาชนช่วยแจ้งเบาะแสและส่งหลักฐานมาให้เจ้าหน้าที่แล้วประมาณ 100,000 ชิ้น ซึ่งเชื่อว่าจะนำไปสู่การจับกุมผู้ก่อเหตุได้อีกจำนวนมาก และเอฟบีไอได้ขอให้ผู้ที่กระทำความผิดเข้ามามอบตัว ซึ่งจะมีการตั้งข้อหากระทำความผิดอาญาประเภทลหุโทษ ไปจนถึงกระทำความผิดอาญาร้ายแรงที่เกี่ยวข้องกับการยุยงปลุกปั่นให้ต่อต้านรัฐบาล และการสมรู้ร่วมคิด ซึ่งมีโทษจำคุกสูงสุด 20 ปี
ล่าสุด เอฟบีไอจับ "แอรอน มอสทอฟสกี" ซึ่งสื่อหลายสำนักในสหรัฐอเมริกา ระบุตัวว่าเป็นบุตรชายของ "ชโลโม มอสทอฟสกี" ผู้พิพากษาศาลสูงสุดในนิวยอร์ก ในข้อหาขโมยทรัพย์สินของรัฐบาล บุกรุก ขัดขวางและไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่ ซึ่งในวันเกิดเหตุ มอสทอฟสกี ได้ยึดเสื้อเกราะและโล่ของตำรวจรัฐสภาที่มีมูลค่ากว่า 2,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 60,000 บาทเอาไว้
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้ตั้งรางวัลนำจับ 50,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 1.5 ล้านบาท ให้กับผู้แจ้งเบาะแสจับบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่เข้าไปวางระเบิดแสวงเครื่อง 2 จุดในอาคารรัฐสภา เมื่อวันที่ 6 ม.ค.ที่ผ่านมา
เหตุจลาจลที่เกิดขึ้นในวันดังกล่าว ทำให้เกิดการตั้งคำถามถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยในบริเวณอาคารรัฐสภา ซึ่งนักวิจารณ์ชี้ว่า เหตุการณ์นี้ถือเป็นความล้มเหลวของระบบข่าวกรองที่ทำให้ประเมินสถานการณ์ต่ำเกินไป และไม่มีการเตรียมความพร้อมรับมือที่เพียงพอ
ล่าสุด วอชิงตัน โพสต์ เปิดเผยว่า สำนักงานเอฟบีไอในเวอร์จีเนียเตือนเกี่ยวกับเหตุรุนแรงที่จะเกิดขึ้น เนื่องจากพบความเคลื่อนไหวของกลุ่มสุดโต่งวางแผนเข้าไปก่อเหตุหรือก่อสงครามขึ้น รวมทั้งมีการส่งต่อแผนที่ของอุโมงค์ต่างๆ ที่อยู่ใต้อาคารรัฐสภาอีกด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ล็อกดาวน์ด่วน! กลุ่มสนับสนุน "ทรัมป์" รวมตัวบุกรัฐสภา
จลาจลรัฐสภาสหรัฐฯ ดับ 1 คน "วอชิงตัน ดีซี" ประกาศเคอร์ฟิว
สรุปเหตุวุ่นวาย ประชุมรับรองผลเลือกตั้ง "ประธานาธิบดีสหรัฐฯ"