ผู้สื่อข่าว รายงานว่า ทุกๆ เย็นวันจันทร์ อาสาสมัครบ้านเตื่อมฝัน หรือ เครือข่ายคนไร้บ้านจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับประชาชนจิตอาสาแบ่งกลุ่มลงพื้นที่นำ อาหาร หน้ากากอนามัย และเจลแอลกอฮอล์ ไปมอบให้กับกลุ่มคนไร้บ้านในตัวเมืองเชียงใหม่
สิ่งที่อาสาสมัครให้ความสำคัญ คือ การเก็บข้อมูลสุขภาพ และเน้นย้ำวิธีการปฏิบัติตัวเพื่อลดความเสี่ยงจากโรคติดเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่ในจังหวัดเชียงใหม่ที่มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
นายเดชา จึงอุดมชัย เครือข่ายคนไร้บ้านจังหวัดเชียงใหม่
นายเดชา จึงอุดมชัย เครือข่ายคนไร้บ้านจังหวัดเชียงใหม่ เล่าว่า การระบาดระลอกใหม่ของโรคโควิด-19 ที่กระทบต่อเศรษฐกิจ และรายได้ของชาวบ้าน จึงน่าจะทำให้มีคนไร้บ้านในเมืองเชียงใหม่เพิ่มมากขึ้น
โดยการลงพื้นที่พบปะคนไร้บ้าน อาสาสมัครจะขอให้พี่น้องคนไร้บ้านชะลอการเคลื่อนย้ายที่อยู่ เพื่อจะนำอาหาร หน้ากากอนามัย และอุปกรณ์ป้องกันโรคระบาดมามอบให้ ขณะนี้เดียวกันก็เน้นย้ำให้ดูแลสุขภาพ เว้นระยะห่าง อย่าร่วมกิจกรรมกับคนหมู่มาก
นอกจากนี้ยังเร่งเก็บข้อมูลสุขภาพ เพื่อค้นหากลุ่มเสี่ยง โดยพบว่าเริ่มมีคนไร้บ้านเจ็บป่วยจากสภาพอากาศหนาว บางคนมีอาการไข้สูง บางส่วนมีความเสี่ยงติดโรคโควิด-19 จากอาชีพ และการใช้ชีวิต โดยเฉพาะกลุ่มคนที่มีอาชีพเก็บของเก่าขาย จึงเตรียมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสุขภาพ และ เตรียมหารือกับสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงใหม่ และอสม. ลงพื้นที่สำรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง
คนไร้บ้าน บางส่วนเล่าว่า พวกเขาป้องกันตัวเองจากโรคโควิด-19 ด้วยการสวมหน้ากากอนามัย ปิดปาก ปิดจมูก และใช้เจลล้างมือบ่อยๆ โดยคนไร้บ้านในเชียงใหม่จะกระจายตัวอยู่ในหลายๆ จุด อาทิ ลานหน้าอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ ลานเอนกประสงค์ข่วงประตูท่าแพ สถานีขนส่งผู้โดยสารช้างเผือก และบางส่วนอาศัยนอนตาม ร้านค้า หรือ สถานบันเทิงที่ปิดให้บริการ
การระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกแรกในช่วงปีก่อน ทำให้จำนวนคนไร้บ้านในเชียงใหม่เพิ่มจาก 120-150 คน เป็น 170 คน ส่วนการระบาดระลอกใหม่ที่กำลังเกิดขึ้น เชื่อว่าจะทำให้มีคนไร้บ้านมากขึ้น ทำให้ภาคประชาชน และหน่วยงานภาครัฐ พยายามเร่งให้การช่วยเหลือ
นางจิราพร เชาวน์ประยูร ยามาโมโต้ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงใหม่
นางจิราพร เชาวน์ประยูร ยามาโมโต้ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ทางหน่วยงานให้การดูแลช่วยเหลือประชาชนกลุ่มเปราะบางที่ได้รับกระทบจากโรคโควิด-19 ผู้สูงอายุ เด็ก และผู้พิการ อย่างต่อเนื่องตั้งแต่การระบาดระลอกแรก
โดยกลุ่มคนเร่ร่อนที่ต้องอาศัยอยู่ในที่สาธารณะเนื่องจากไม่มีค่าเช่าห้องได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขตรวจคัดกรอง และส่งกลับภูมิลำเนา ขณะที่บางรายได้รับเข้าไปอยู่ในความดูแลของศูนย์คนไร้บ้าน
ส่วนในปีนี้ สถานการณ์โรคโควิด-19 ที่ขยายวง ทำให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบด้านเศรษฐกิจเริ่มติดต่อขอความช่วยเหลือมายังสำนักงาน และผ่านโทรศัพท์สายด่วน 1300 ซึ่งเป็นโทรศัพท์สายตรงไปยังบ้านพักเด็ก และครอบครัวจังหวัดเชียงใหม่
ปัญหาที่พบ คือ ปัญหาค่าครองชีพ ตกงาน ไม่มีงานทำ ปัญหาภายในครอบครัว การถูกกระทำความรุนแรง ซึ่งก็ได้ให้การช่วยเหลือ และประสานงานต่อไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง
ส่วนกลุ่มคนเปราะบางที่อาจยังไม่เข้าถึงความช่วยเหลือ ได้เน้นย้ำให้กับอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่มีอยู่ในพื้นที่ อปท. ตำบล และอำเภอต่างๆ ค้นหาเชิงรุก และรับเรื่องราวร้องทุกข์