วันนี้ (19 ม.ค.2564) ตำรวจสืบสวนภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี นำหมายค้นเข้าตรวจสอบภายในบ้านหลังหนึ่งใน อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี หลังได้รับการร้องเรียนจากผู้เสียหายว่ามีการปล่อยเงินกู้เกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด โดยพื้นที่ภายในบริเวณบ้านเป็นบ้านปลูกติดกัน 3 หลัง และเป็นนักการเมืองท้องถิ่นใน จ.สุพรรณบุรี
พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี เปิดเผยว่า วันนี้ได้เข้าตรวจค้นเพื่อหาพยานหลักฐานการปล่อยเงินกู้นอกระบบ ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2563 บ้านนี้เคยถูกดำเนินคดีในข้อหา ร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต เนื่องจากปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยร้อยละ 3 บาทต่อเดือน ซึ่งเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ว่าห้ามเกินร้อยละ 1.5 ต่อเดือน โดยได้ยึดเอกสารและโฉนดที่ดินได้จำนวนหนึ่ง หลังจากนี้ต้องสอบปากคำทั้ง 2 ฝ่ายถึงรายละเอียดการกู้เงินว่าถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่
ด้านนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมช่วยเหลือเหยื่ออาญชากรรม เปิดเผยว่า มีผู้เสียหายใน อ.สามชุก หลายคนมาร้องเรียนให้ช่วยเหลือ หลังจากนำโฉนดที่ดินมาให้กลุ่มเจ้าหนี้เพื่อขอกู้เงิน แต่มียอดเงินกู้ภายในสัญญาสูงกว่าราคาประเมินที่ดินของธนาคาร ซึ่งเป็นเรื่องผิดปกติ เมื่อมาดูยอดเงินภายหลังจึงพบว่ายอดหนี้เพิ่มขึ้นเท่าตัว โดยเจ้าหนี้รายนี้ได้ยื่นฟ้องลูกหนี้หลายรายที่ไม่จ่ายเงิน แต่เมื่อลูกหนี้ตรวจสอบกลับพบว่ามียอดหนี้เพิ่มขึ้นจากเดิม
ขณะที่ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ได้นำโฉนดที่ดินยื่นกู้เงินกับเจ้านี้รายนี้รวม 3 ครั้ง ตั้งแต่ปี 2554 รวมเป็นเงิน 230,000 บาท แต่ยอมรับว่าไม่ได้จ่ายดอกเบี้ยตามกำหนด กระทั่งปี 2560 มีการเจรจากัน โดยเจ้าหนี้ทำสัญญาขึ้นมาใหม่ พบว่ามีการนำดอกเบี้ยมาทบกับเงินต้น เป็นเงินสูงถึง 600,000 บาท ซึ่งสูงกว่ายอดดอกเบี้ยตามจริง ด้วยความกลัวว่าจะถูกยึดที่ดินจึงยอมเซ็นชื่อในสัญญา และเมื่อดำเนินคดีในชั้นศาล ยอดหนี้กลับเพิ่มขึ้นถึง 700,000 บาท
สำหรับเจ้าหนี้รายนี้พบว่ามีผู้นำโฉนดที่ดินกว่า 160 โฉนดมาเป็นหลักทรัพย์กู้เงิน รวมเป็นมูลหนี้กว่า 53 ล้านบาท ซึ่งหลังตรวจค้นในบ้านผู้เสียหายเสร็จแล้วได้เชิญเจ้าของบ้านและลูกหนี้มาให้ข้อมูลที่ สภ.สามชุก ส่วนการตรวจค้นวันนี้ได้เข้าตรวจรวม 12 เป้าหมาย