วันนี้ (22 ม.ค.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ลงนามขึ้นทะเบียนวัคซีน COVID-19 ของบริษัท แอสตราเซเนกา รุ่นการผลิตในประเทศอิตาลี หลังจากทางบริษัทฯ ส่งเอกสารเกือบ 10,000 หน้ามาขอขึ้นทะเบียนในไทย เพื่อใช้ฉีดภาวะฉุกเฉิน ตั้งแต่วันที่ 22 ธ.ค.2563 โดยพิจารณาเรื่องประสิทธิภาพ คุณภาพ และความปลอดภัยเป็นสำคัญ ซึ่งวัคซีนจะถึงไทยในเดือน ก.พ.นี้ จำนวน 50,000 โดส และการทะเบียนวัคซีนนี้มีระยะเวลา 1 ปี
เมื่อวัคซีนถึงไทย กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์จะดำเนินการสุ่มตรวจวัคซีนว่ามีคุณภาพตามที่บริษัทกำหนดไว้หรือไม่ ก่อนนำไปฉีดให้กับประชาชน จากนั้นทางบริษัทฯ จะทยอยส่งวัคซีนที่เหลืออีก 150,000 โดสตามมาภายในเดือน มี.ค.และ เม.ย.
สำหรับการผลิตวัคซีน COVID-19 ของแอสตราเซเนกาในไทย ที่ร่วมกับสยามไบโอซายเอน ก็จะมีการขึ้นทะเบียนสถานที่ผลิตในไทย ซึ่งจะมีผลให้สามารถใช้ได้ในประเทศไทยทันทีในเดือน พ.ค.นี้
ขณะที่ ผศ.นพ.ปวิน นำธวัช เปิดเผยผลลัพธ์ของวัคซีน COVID-19 ที่รวบรวมโดยอาจารย์และนักศึกษาจากภาควิชาระบาดวิทยาคลินิกและชีวสถิติ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี เปรียบเทีบบวัคซีนไฟเซอร์ โมเดอร์นา แอสตราเซเรกา และซิโนแวค สรุปได้ว่า โมเดอร์นามีประสิทธิภาพสูงสุด ตามมาด้วยไฟเซอร์ ส่วนซิโนแวคและแอสตราเซเนกาไม่ต่างกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เริ่มฉีดวัคซีนล็อตแรก 2 แสนโดสให้แนวหน้ากลุ่มเสี่ยง ก.พ.นี้
สธ.เคาะฉีดวัคซีนกลุ่มเสี่ยงก่อน ยกเว้นคนท้อง-เด็กต่ำกว่า 18 ปี