วันนี้ (27 ม.ค.2564) ที่รัฐสภา วันนี้ คณะกรรมาธิการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน ได้เชิญผู้แทนจากกองบังคับการปราบปราม ชี้แจงความคืบหน้าการดำเนินคดี กับนายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด น้องชาย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กรณีเป็นผู้สั่งจ่ายเช็ก ให้เจ้าหน้าที่ของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เพื่อต้องการเช่าที่ดินโดยไม่ผ่านการการประมูลตามกระบวนการ จนนำมาสู่การดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของสำนักงานทรัพย์สินฯในฐานะผู้รับเงิน
หลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมา กรรมาธิการได้มีการเชิญอัยการเข้าชี้แจง และอัยการให้เหตุผลการไม่ฟ้องนายสกุลธร เนื่องจากพนักงานสอบสวนแยกสำนวนออกมาดำเนินคดีเป็นอีกกรณี ส่วนการชี้แจงในวันนี้ กองบังคับการปราบปราม มี พ.ต.อ.ณัฐวัฒน์ เกศะรักษ์ รองผู้บังคับการปราบปราม, พ.ต.อ.สัณห์เพชร หนูทอง ผู้กำกับการสอบสวน และ พ.ต.ท.หญิง บุญทิวา ลิ้มศิริลักษณ์ สารวัตรสอบสวน เข้าชี้แจง
แจงเหตุแยกคดีตามเทคนิคทำสำนวน
พ.ต.อ.สัณห์เพชร หนูทอง ผู้กำกับการสอบสวน ชี้แจงเหตุผลที่ต้องแยกสำนวนคดีนายสกุลธร ออกจากคดีของเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพย์สินฯ ที่กระทำความผิดในฐานะผู้รับเรื่อง จากกรณีของนายสกุลธร เป็นกรณีในฐานะผู้ให้ ที่เป็นคนละข้อกล่าวหา หากรวมสำนวนเดียวกันจะกลายเป็นการซัดทอดผู้ต้องหาทำให้คดีไม่มีน้ำหนักจากคำซัดทอด จำเป็นต้องแยกระหว่างคดีผู้ให้กับผู้รับตามเทคนิคของการทำสำนวน พร้อมยอมรับว่าเหตุผลที่คดีล่าช้า เนื่องจากมีความไม่ชัดเจนว่าคดีนี้เป็นอำนาจของ ป.ป.ช. หรือของกองบังคับการปราบปราม
แต่เมื่อ ป.ป.ช.วินิจฉัยแล้วว่าเป็นอำนาจของกองบังคับการปราบปราม ทางกองปราบฯ ก็ได้เรียกผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องในคดีนี้มาให้ปากคำ ยืนยันว่าคดีนี้ทางกองปราบได้เตรียมออกหมายเรียกนายสกุลธร ให้มารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว อยู่ระหว่างพิจารณาตั้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม ตามมาตรา 144 ของประมวลกฎหมายอาญา ฐานผู้ใดให้ขอให้หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่เจ้าพนักงาน เนื่องจากเป็นคนเดียวที่เซ็นชื่อในเช็คจ่ายเงิน แต่ในการแจ้งข้อหาต้องแจ้งในฐานะนิติบุคคลด้วย ทำให้จะต้องแจ้งข้อหาเพิ่มกับ นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ในฐานะกรรมการผู้มีอำนาจ
"สกุลธร" รับเงินคืน แต่ไม่ฟ้องเอาผิด
ด้าน พ.ต.อ.ณัฐวัฒน์ เกศะรักษ์ รองผู้บังคับการปราบปราม ย้ำว่าการแจ้งข้อกล่าวหาครั้งนี้ แม้นายสกุลธรจะอ้างว่าถูกหลอก แต่ในฐานะนักธุรกิจควรทราบขั้นตอนการขอเช่าที่ดิน
อย่างไรก็ตาม กรรมาธิการซักถามถึงประเด็นที่นายสกุลธร อ้างว่าถูกหลอกและเป็นผู้เสียหายในคดีนี้ พ.ต.อ.สัณห์เพชร ชี้แจงว่ากรณีนี้มีข้อเท็จจริงจากเงินก้อนสุดท้าย จำนวน 10 ล้านบาท ที่จะจ่ายกัน หากมีการประชุมโครงการ แต่เมื่อการประชุมโครงการไม่เกิดขึ้นจริง นายสกุลธรจึงต้องการยกเลิกสัญญากับเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพย์สินฯ ให้คืนเงิน และเมื่อมีการคืนเงินแล้ว นายสกุลธรก็ไม่ได้ดำเนินคดี ฐานฉ้อโกงกับเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวแต่อย่างใด
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
วัชระ ทวงถามความคืบหน้าคดี "น้องชายธนาธร" ปมสินบน
ยังไม่ออกหมายเรียก "สกุลธร" ให้ปากคำ คดีสินบน สนง.ทรัพย์สินฯ
น้องชาย "ธนาธร" ชี้แจงปมจ่ายสินบนที่ดิน สนง.ทรัพย์สินฯ