วันนี้ (28 ม.ค.64) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดีที่อัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้องอดีต 4 แกนนำได้แก่นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม,นายสกลธี ภัททิยกุล,นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ และนายเสรี วงษ์มณฑา กรณีเมื่อวันที่ 23 พ.ย.56 ทั้งหมดร่วมชุมนุมกันเพื่อขับไล่รัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
คดีดังกล่าวพนักงานอัยการคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง 8 ข้อหา ฐานร่วมกันเป็นกบฏ กระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หรือวิธีอื่นใดที่ไม่ใช่การกระทำในความมุ่งหมายตามรัฐธรรมนูญเพื่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือความไม่สงบในราชอาณาจักรฯ, อั้งยี่ ซ่องโจร , มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้ายให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองโดยมีอาวุธ โดยเป็นหัวหน้าหรือเป็นผู้มีหน้าที่สั่งการเจ้าพนักงานสั่งให้เลิกการกระทำนั้นแต่ไม่เลิก ยุยงให้ร่วมกันหยุดงาน การร่วมกันปิดงานงดจ้างเพื่อบังคับรัฐบาล , ร่วมกันบุกรุก และร่วมกันขัดขวางเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้ง,ร่วมกันขัดขวางการปฏิบัติงานของ กกต.ความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และการได้มา ซึ่ง ส.ว. พ.ศ. 2550
คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องเนื่องจากพยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบมายังไม่พอฟังได้ว่าจำเลยทั้ง 4 คน ได้กระทำความผิดตามฟ้องทั้ง 8 ข้อหา จึงพิพากษายกฟ้อง อย่างไรก็ตาม ล่าสุดศาลอุทธรณ์เลื่อนอ่านคำพิพากษาเนื่องจากยังทำคำพิพากษาไม่แล้วเสร็จ จึงเลื่อนไปอ่านคำพิพากษาอีกครั้งในวันที่ 6 พ.ค.เวลา 09.00 น.
ขณะที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการ กปปส.ซึ่งเดินทางมาให้กำลังใจ 4 แกนนำ เปิดเผยว่า หลังการยุติการชุมนุมของกลุ่ม กปปส.มีแกนนำและแนวร่วมหลายคนถูกดำเนินคดีอาญา โดยบางคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกาขณะที่บางคดีแกนนำและกลุ่มผู้ชุมนุม ศาลมีคำพิพากษาในคดีอาญาไปแล้ว แต่ทั้งนี้ ยืนยันว่า อดีตแกนนำ กปปส. จะขอต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรมทุกคดี โดยคดีล่าสุด ศาลชั้นต้นนัดฟังคำพิพากษาอดีตแกนนำ กปปส ชุดใหญ่รวม 39 คน ฐานกบฏในวันที่ 24 ก.พ.นี้
นายสุเทพ ยังให้ความเห็นเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวทางการเมืองของกลุ่มเยาวชนนักศึกษาในปัจจุบัน ว่าทุกกลุ่มย่อมมีความเชื่อทางการเมืองที่แตกต่างกัน แต่ทั้งนี้การเคลื่อนไหวใด ๆ ต้องเป็นไปตามบทบัญญัติของกฎหมายด้วย