วันนี้ (3 ก.พ.64 ) นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย ส.ส.พรรคก้าวไกล ร่วมแถลงข่าว ยืนยันจะเอาผิดฐานกล่าวให้การเท็จให้ร้ายต่อพรรคการเมืองตามกฎหมายพรรคการเมืองมาตรา 101 ต่อนายณฐพร โตประยูร อดีตประธานที่ปรึกษาผู้ตรวจการแผ่นดินที่ยื่น กกต.ให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคก้าวไกล อ้างเหตุการสนับสนุนแก้รัฐธรรมนูญหมวด 1-2 ,การใช้ตำแหน่ง ส.ส.ประกันตัวผู้ต้องหาคดี 112 การไปร่วมชุมนุมกลุ่มราษฎร และเสนอญัตติการแก้กฎหมายไขความผิดฐานหมิ่นประมาท และมาตรา 112
นายชัยธวัช ย้ำว่าในช่วงปลายเดือน ก.พ.นี้ ซึ่งจะครบรอบ 1 ปีการยุบพรรคอนาคตใหม่ ยังอ้างว่าคำร้องของนายณฐพรเป็นการบดขยี้พรรคอนาคตใหม่ สืบเนื่องมาถึงพรรคก้าวไกล โดยใช้สถาบันฯ และกลไกองค์กรอิสระในการทำลายล้างทางการเมือง ด้วยพรรคก้าวไกลถูกมองว่าเป็นอุปสรรคค่อการสถาปนาอำนาจนิยมระบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ในปัจจุบัน ยืนยันพรรคก้าวไกลจะต่อสู้ถึงที่สุด
พร้อมกันนี้ยังชี้แจงการไปร่วมชุมนุมสังเกตการณ์ เพื่อไปรับฟังความเห็นของประชาชน และช่วยระงับความรุนแรงหากเกิดการปะทะ ส่วนการประกันตัวประชาชนและนักศึกษาที่ถูกดำเนินคดีการชุมนุมเป็นการประกันสิทธิขั้นพื้นฐานตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งผู้ต้องหาทุกคนต้องสันนิษฐานก่อนว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ เช่นเดียวกันนายณฐพรที่ได้รับการประกันตัวในคดีฟอกเงิน
นายชัยธวัช ชี้ว่าการดำเนินคดีของรัฐต่อประชาชนในมาตรา 112 จะส่งผลให้เกิดความขัดแย้งทางการเมืองตึงเครียดมากขึ้นและจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนและพระมหากษัตริย์เสื่อมทรามลง
ยังกล่าวถึงกรณีที่หม่อมเจ้าจุลเจิม ยุคล ที่โพสต์ข้อความทักท้วงศาลที่ให้ประกันตัวผู้ต้องกันคดี 112 เป็นการบกพร่องต่อหน้าที่ เป็นภัยต่อความมั่นคงและสถาบันพระมหากษัตริย์นั้นว่า เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงที่มีการขู่ผู้พิพากษาและตุลาการว่าทำตัวเป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบการปกครอง หรือมีส่วนในการส่งเสริมในการล้มล้างการปกครองและล้มล้างสถาบันฯหรือไม่
เลขาธิการพรรคก้าวไกล ย้ำว่าไม่ควรเกิดการแทรกแซงในกระบวนการยุติธรรม จากบุคคลที่ได้รับการโปรดเกล้าแต่งตั้งเป็นทหารพิเศษประจำกรมทหารมหาดเล็กราชวัลลภ รักษาพระองค์ ซึ่งเป็นส่วนราชการในพระองค์ ซึ่งการแสดงความเห็นต้องมีความระมัดระวัง เพราะอาจส่งผลกระทบให้ประชาชนและตุลาการส่วนหนึ่งเข้าใจในทิศทางที่พระมหากษัติรย์เสื่อมเสียพระเกียรติยศ
นอกจากนี้เลขาธิการพรรคก้าวไกลยังเปิดเผยความคืบหน้าในการเสนอญัตติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญามาตราที่มีความผิดฐานหมิ่นประมาททั้งหมด รวมถึงมาตรา 112 โดยสัปดาห์หน้าพร้อมจะยื่นต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่วนการลงชื่อของ ส.ส.ในพรรคถือเป็นเอกสิทธิ แต่ยอมรับมีการให้คณะกรรมการวินัยของพรรคดำเนินการโดยไม่ถึงขั้นขับออกจากพรรค เพราะอ้างเหตุผลว่า "ไม่ต้องการเตะหมูเข้าปากหมา" ก่อนจะชี้แจงว่า เพราะมี ส.ส.บางคนมีเหตุผลส่วนตัว เรื่องครอบครัว