วันนี้ (15 ก.พ.2564) นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล แถลงข่าว เรื่องการค้นพบแหล่งน้ำบาดาลใหม่ ในพื้นที่แล้งซ้ำซาก ต.ห้วยกระเจา อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี โดยระบุว่า พุโซดาไทย ที่พบครั้งแรก มีคุณภาพเทียบเท่ากับน้ำแร่ ยี่ห้อดังจากประเทศเยอรมนี และฝรั่งเศส ซึ่งกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เตรียมหาเครื่องกรองสนิมเหล็กในพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนมีโอกาสได้ชิมด้วย
อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กล่าวว่า จากการส่งเข้าตรวจสอบในห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ตรวจสอบ และวิเคราะห์คุณภาพน้ำด้วยการเก็บตัวอย่างน้ำถึง 3 ครั้ง ยืนยันว่าน้ำบาดาลสามารถดื่มได้จริงไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ไม่มีสารปนเปื้อน และไม่มีสารพิษปะปนในน้ำ สิ่งสำคัญวิจัยพบแร่ธาตุที่อยู่ในน้ำแร่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับน้ำแร่ในประเทศไทย และต่างประเทศ ทั้งไบคาร์บอเนตสูงถึง 2 เท่า ฟลูออไรด์ใกล้เคียงต่างประเทศ และธาตุเหล็กตามปกติในธรรมชาติสามารถลดปริมาณลงได้ผ่านกระบวนการกรองน้ำ
จากการตรวจสอบคุณภาพพุโซดา พบมีแร่ไบคาร์บอเนตสูง 2 เท่า คือ 2,500 มิลลิกรัมต่อลิตร และมีฟลูออไรด์ 1.5 มิลลิกรัมต่อลิตร และไม่มีสารพิษในน้ำ
คุณภาพดีเทียบน้ำแร่ระดับโลก
นอกจากนี้ยังเตรียมประกาศเขตอนุรักษ์บาดาล เพื่อคุ้มครองพื้นที่รอบๆ ภายใต้ พ.ร.บ.น้ำบาดาล พ.ศ.2520 ใช้ควบคุมพื้นที่บริเวณนี้ให้ใช้น้ำอย่างคุ้มค่าที่สุด เพราะเป็นแหล่งน้ำที่มีแร่ธาตุสูงและคุณภาพดี และเตรียมแนวทางกระจายแหล่งน้ำบาดาลให้กับชาวบ้าน เนื่องจากเป็นพื้นที่เคยประสบปัญหาแล้ง และแก้ปัญหาการลักลอบขุดเจาะน้ำบาดาล ซึ่งหลังจากมีข่าวพบพุบาดาล ได้พูดคุยกับทาง อบต.ว่า ราคาที่ดินบริเวณพื้นที่ใกล้เคียง เริ่มมีราคาพุ่งขึ้นเท่าตัวแล้ว
กรมทรัพยากรน้ำบาดาล จะเข้าไปบริหารจัดการบ่อน้ำบาดาลให้เกิดการใช้ประโยชน์สูงสุดและไม่เกินศักยภาพการผลิต ด้วยการสำรวจแหล่งน้ำดังกล่าวแล้วจัดทำแนวเขตแหล่งน้ำใต้ดินเพื่อประกาศเป็นเขตควบคุม
การแถลงข่าวครั้งนี้มีการนำตัวอย่างน้ำพุโซดา จำนวน 10 ลิตร มาผ่านการกรองสนิมเหล็กด้วยเครื่องขนาดเล็ก โดยใช้เวลาประมาณ 5 นาที พบว่า จากน้ำสีขุ่น สามารถกรองตะกอนสนิมเหล็กออกจนเป็นน้ำสีใส โดยอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล พร้อมนักวิชาการ ได้ทดลองดื่มน้ำบาดาล เพื่อพิสูจน์ว่าน้ำพุโซดา สามารถดื่มได้ถ้าผ่านการกรองสนิมเหล็กออก
ศักยภาพน้ำบาดาลมากกว่า 5 แสนลบ.ม.
นายเกรียงศักดิ์ ภิระไร ผู้อำนวยการสำนักสำรวจและประเมินศักยภาพน้ำบาดาล กรมทรัพยากรน้ำบาดาล กล่าวว่า ภาพรวมบ่อน้ำบาดาลที่เป็นน้ำพุ 2 บ่อ ได้น้ำบาดาลเฉลี่ยบ่อละ 1,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน หากรวมน้ำบาดาลทั้ง 3 บ่อจะได้น้ำทั้งปีกว่า 500,000 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งจากการทดสอบระดับน้ำช่วง 3 วันพบระดับน้ำคงที่ไม่ลดลงสามารถใช้ประโยชน์ได้ครอบคลุม
ศักยภาพของบาดาลที่เจาะได้ 1-2 บ่อ พบว่า มีปริมาณน้ำที่สูงมาก บ่อแรกขุดลึก 303 เมตร มีปริมาณน้ำ 30-50 ลบ.ม.ต่อชั่วโมง ส่วนอีกบ่อขุดลึก 224 เมตรปริมาณน้ำ 30-50 ลบ.ม.ต่อชั่วโมง ตามแผนต้องหาบ่อบาดาลรวม 6 บ่อ จะต้องจัดหาน้ำ 500,000 ลบ.ม.ในระยะ 1 ปี
ส่วนการขุดเจาะน้ำบาดาลตามแผนอีก 3 บ่อที่เหลือคาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 14 วัน คาดการณ์จะได้ปริมาณน้ำเฉลี่ยทั้งหมด 6 บ่อทั้งปีกว่า 1 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนในพื้นที่มีน้ำกินน้ำใช้และเพื่อเกษตรกรรมได้ตลอดทั้งปี โดยน้ำที่จะนำไปใช้เพาะปลูกพืชชนิดต่างๆต้องนำไปผ่านกระบวนการกรองก่อนเช่นกันเพื่อดึงค่าสนิมเหล็กออก