วันนี้ (24 ก.พ.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ โดยมี พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธานหารือที่บูรณาการการทำงานระหว่าง 3 เหล่าทัพ และสํานักงานตํารวจแห่งชาติ เน้นขับเคลื่อนปฏิรูปกองทัพ และส่งเสริมต่อยอดการวิจัยพัฒนา และอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ เพื่อมุ่งสู่การผลิตใช้ในราชการ การสร้างมาตรฐานทางทหาร ลดการนำเข้ายุทโธปกรณ์ราคาสูงจากต่างประเทศ โดยกองทัพบกได้พัฒนาขีดความสามารถของโรงงานซ่อมยางให้สามารถผลิตยางรถยนต์ทางทหารได้อย่างเพียงพอ
ทั้งนี้ ยังมีการประชุมคณะผู้บัญชาการทหาร เพื่อหารือปรับปรุงโครงสร้างและระบบงานกองทัพไทยตามแนวทางของกระทรวงกลาโหม ซึ่งหากได้รับมอบภารกิจใหม่ ให้โอนงานไปยังหน่วยที่มีภารกิจใกล้เคียงแทนและหากมีภารกิจซ้ำซ้อนให้ยุบหน่วยในลักษณะการปรับโครงสร้างให้เล็กกะทัดรัด รองรับภารกิจใหม่ โดยเฉพาะการรับมือการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19
ยังคงคุมเข้มชายแดนป้องกัน COVID-19
ทั้งนี้ ยังให้ชะลอจัดตั้งหน่วยงานใหม่ที่มีผู้บังคับบัญชาระดับ พล.ต., พล.ร.ต., พล.อ.ต. ขึ้นไป และให้ปรับลดตำแหน่งทหารปฏิบัติการ ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้ชำนาญการ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ อย่างเคร่งครัดร้อยละ 5-10 พร้อมทั้งให้ปรับปรุงระบบทั้งหมด ทั้งส่งกำลังบำรุง การฝึก การศึกษาและปฏิบัติการร่วม
สำหรับการรับมือ COVID-19 หลังขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ออกไปอีก 1 เดือน กองทัพไทยยังคงภารกิจเดิม โดยเน้นกำกับดูแลให้เป็นไปตามมาตรการของ ศบค.ควบคู่กับการผ่อนคลายกิจกรรม-กิจการ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อไปได้ รวมทั้งดำรงความเข้มข้นเฝ้าตรวจชายแดน ส่วนกรณีที่วัคซีน COVID-19 ล็อตแรกถึงไทยในวันนี้ จะกระจายไปยังทหารส่วนใดก่อนนั้น พล.อ.เฉลิมพล ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ระบุทุกอย่างเป็นไปตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุขดำเนินการ