วันนี้ (25 เม.ย.2564) รายงานข่าวจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เปิดเผยถึงกรณีที่มีข่าวว่าชาวอินเดียเดินทางเข้ามาในประเทศไทยจำนวนมาก ว่า สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง มีหน้าที่ช่วยเหลือด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ กรมควบคุมโรค ในการช่วยตรวจคัดกรอง ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ก่อนเข้าประเทศ
โดยจะตรวจเอกสารที่สถานทูต ประเทศต้นทางออกให้ และจะดูเงื่อนไขวีซ่าตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ และ ตามที่ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ กำหนด เป็นหลัก หากพบว่าผิดเงื่อนไขก็ปฏิเสธการเข้าเมือง และผลักดันกลับทันที
ชาวอินเดียเข้าไทย 602 คน
เงื่อนไขการเข้าประเทศไทยของสัญชาติอินเดีย ตั้งแต่วันที่ 1-20 เม.ย.2564 แบ่งเป็นเข้ามาทำงาน 426 คน กลุ่มนักธุรกิจ นักลงทุน 110 คน เป็นกลุ่มนักธุรกิจ มีคู่สมรส บิดามารดา หรือบุตรคนไทย จำนวน 30 คน
นอกจากนี้ ยังมีนักเรียนนักศึกษา จำนวน 16 คน มีถิ่นที่อยู่ในไทย จำนวน 10 คน และคณะทูต ผู้แทนรัฐบาล จำนวน 8 คน และเข้ามารักษาพยาบาลที่ไม่ใช่โรค COVID-19 จำนวน 2 คน
7 อันดับแรก เดินทางเข้าไทย
สำหรับจำนวนบุคคลที่เข้ามาในไทย แยกตามสัญชาติระหว่างวันที่ 1-20 เม.ย. พบว่าสัญชาติอินเดียอยู่ในลำดับที่ 7
โดยลำดับที่ 1. ไทย 7,176 คน, 2. จีน 2,148 คน, 3. ญี่ปุ่น 1,700 คน, 4. สหรัฐอเมริกา 1,153 คน, 5. อังกฤษ 617 คน, 6. เยอรมนี 608 คน และ 7. อินเดีย 602 คน
ตรวจเชื้อโควิด-ทำประกันก่อน
โดยก่อนที่ชาวต่างชาติทุกคนเข้ามาในไทย จะต้องได้รับการรับรองจากสถานทูตในประเทศต้นทางก่อนว่าผ่านการตรวจเชื้อ COVID-19 มาแล้ว และมีผลยืนยันไม่เกิน 72 ชั่วโมง
รวมทั้งต้องมีประกัน COVID-19 ทุนประกันวงเงิน 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเข้ามาแล้วจะออกใบรับรองให้เดินทางเข้าไทย และเข้ามากักตัวตามขั้นตอน โดยผู้ที่ได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศนั้นต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่รัฐบาลอนุญาตด้วย
ส่วนกรณีที่เข้ามารักษาตัวด้วยโรคอื่นไม่ใช่ COVID-19 จะต้องมีหนังสือรับรองจากโรงพยาบาลประเทศต้นทาง และเข้ารักษาแบบ HQ หรือ AQ ในโรงพยาบาลที่รักษา