วันนี้ (28 พ.ค.2564) ศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงานว่า ส่งออกเดือน เม.ย.2564 ขยายตัวดีอยู่ที่ 13.09% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า สูงสุดในรอบ 3 ปี และสูงกว่าตลาดคาดการณ์ และเมื่อหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ อาวุธ ยุทธปัจจัย จะขยายตัวถึง 25.7%
เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า สอดคล้องกับการส่งออกของภูมิภาคเอเชียที่เติบโตแข็งแกร่งตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก
สถานการณ์ COVID-19 ในประเทศโซนตะวันตก เช่น สหรัฐฯ และยุโรป มีแนวโน้มดีขึ้นตามอัตราการฉีดวัคซีนที่รวดเร็วหนุนให้เศรษฐกิจฟื้นตัว ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญหนุนตัวเลขส่งออกไทยเดือน เม.ย. โดยการส่งออกไปสหภาพยุโรป ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3
ด้านโซนเอเชีย โดยเฉพาะตลาดเกิดใหม่ ยังคงเผชิญปัญหาการกลับมาระบาดของ COVID-19 ระลอกที่ 3 สะท้อนจากตัวเลขการส่งออกไปตลาดอาเซียน ที่ยังคงหดตัวที่ -4.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
ขณะที่การส่งออกไปกลุ่มประเทศ CLMV ได้แก่ กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม ขยายตัวได้ถึง 44.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
ทั้งนี้ เมื่อพิจารณารายตลาดพบว่าในอินเดียเผชิญการระบาดที่รุนแรงขึ้นอย่างมาก แต่การส่งออกของไทยไปยังอินเดียกลับขยายตัวได้ถึง 193.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
เนื่องจากการระบาดของ COVID-19 ทำให้ต้องพึ่งพาสินค้านำเข้าจำนวนมาก เช่น เม็ดพลาสติก เคมีภัณฑ์ เหล็กและผลิตภัณฑ์ ทองแดง และรถยนต์และส่วนประกอบ
ในระยะข้างหน้า ส่งออกไทยมีแนวโน้มเติบโตดีต่อเนื่องตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่ได้รับแรงหนุนจากสถานการณ์ COVID-19 ที่ดีขึ้นตามการฉีดวัคซีนในหลายประเทศ
ขณะที่นโยบายการเงินยังมีแนวโน้มผ่อนคลายรวมถึงมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง กอปรกับมีการชดเชยอุปสงค์ที่ค้างจากช่วงก่อนหน้า ขณะที่ปัญหาเรื่องการขาดแคลนตู้สินค้าทางกระทรวงพาณิชย์ได้เข้ามาแก้ไขและนำเข้าตู้คอนเทนเนอร์เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ส่งออกไทยยังคงเผชิญความเสี่ยงอีกหลายอย่าง อาทิ การระบาดของ COVID-19 ในบางประเทศที่ผู้ติดเชื้อรายวันยังเพิ่มขึ้น รวมถึงในหลายประเทศ โดยเฉพาะแถบเอเชียที่เดิมควบคุมสถานการณ์ได้ดี แต่กลับมามีการระบาดหนักขึ้น
อีกทั้งยังต้องติดตามประสิทธิผลและความเชื่อมั่นของวัคซีน รวมถึงการกลายพันธุ์ของไวรัส ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยยังคงประมาณการการส่งออกปี 2564 ไว้ที่ขยายตัว 7.0%