วันนี้ (6 มิ.ย.2564) หลังเกิดข้อถกเถียงถึงความล่าช้าในการจัดหาวัคซีน "แอสตราเซเนกา" จะเพียงพอต่อความต้องการของประชาชนหรือไม่ นายสมชาย แสวงการ ประธานคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ระบุว่า บริษัท แอสตราเซเนกา เลือกให้บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด เป็นฐานการผลิตวัคซีน ที่พัฒนาโดยมหาวิทยาลัยอ็อกซฟอร์ด เนื่องจากเป็นบริษัทที่ไม่ค้ากำไร และมีศักยภาพในการผลิตวัคซีน
นอกจากนี้ การที่ประเทศไทยได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตวัคซีน COVID-19 ยังถือเป็นประเทศเดียวในอาเซียนที่มีความมั่นคงทางวัคซีน COVID-19 และยังเป็นหลักประกันว่าประเทศไทยจะมีวัคซีน COVID-19 จากแอสตราเซเนกา และสยามไบโอไซเอนซ์ ตลอดไปอีกหลายปี
นายสมชาย ระบุว่า บริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ จะส่งมอบวัคซีนให้ครบตามจำนวนที่กำหนดไว้ และหากรวมกับวัคซีนของซิโนแวค และซิโนฟาร์ม ยืนยันว่ามีวัคซีนทยอยฉีดให้กับประชาชนตั้งแต่เดือน มิ.ย. จำนวน 7 - 9 ล้านโดส พร้อมย้ำว่า ศบค.ต้องบริหารจัดการวัคซีนให้เพียงพอกับจังหวัดที่มีการระบาดหนัก เพราะหากไม่ฉีดในพื้นที่ระบาดหนัก จะไม่สามารถป้องกันการระบาดได้
นายสมชาย ขอให้คนไทยมองด้วยทัศนคติบวก เข้าใจปัญหาและร่วมกันแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะฝ่ายการเมือง ยามเกิดวิกฤตต้องเสนอแนะในทางสร้างสรรค์ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ มากกว่าจะเล่นการเมือง ใช้โซเซียลที่จะทำให้ประชาชนเกิดความตื่นกลัว เพราะท้ายที่สุดแล้ว อาจทำประเทศล่มสลาย