วันนี้ (16 มิ.ย.2564) แอสตราเซเนกา เปิดเผยข้อมูลการใช้วัคซีนที่เผยแพร่ในเอกสารก่อนการตีพิมพ์ (pre-print) โดยสาธารณสุขประเทศอังกฤษ (PHE) พบว่า หลังการฉีดวัคซีนป้องกัน COVID-19 ของแอสตราเซเนกาครบทั้ง 2 เข็มแล้ว วัคซีนมีประสิทธิผลสูงถึง 92% ในการป้องกันการนอนโรงพยาบาลและไม่มีผู้ที่เสียชีวิตจากสายพันธุ์เดลตา (B.1.617.2 เดิมคือสายพันธุ์อินเดีย) ในกลุ่มที่ได้รับวัคซีน
รายงานดังกล่าวยังแสดงให้เห็นถึงประสิทธิผลของวัคซีนป้องกัน COVID-19 ของแอสตราเซเนกา ที่สามารถป้องกันสายพันธุ์อัลฟา (B.1.1.7 เดิมคือสายพันธุ์อังกฤษ หรือ เคนท์) โดยมีประสิทธิผลสูงถึง 86% ในการป้องกันการนอนโรงพยาบาล และไม่มีรายงานการเสียชีวิตในกลุ่มที่ได้รับวัคซีน
ข้อมูลดังกล่าวยังแสดงให้เห็นว่า วัคซีนของแอสตราเซเนกา มีประสิทธิผลต่อการป้องกันการติดเชื้อที่มีอาการน้อย (mild symptomatic disease) ได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยวัคซีนมีประสิทธิผลสูงถึง 74% ในการป้องกันการติดเชื้อแบบมีอาการจากสายพันธุ์อัลฟา และ 64% จากสายพันธุ์เดลตา
ประสิทธิผลที่สูงขึ้นของวัคซีนในการลดความรุนแรงของโรคและการนอนรักษาในโรงพยาบาลพิสูจน์ได้จากการที่ทีเซลล์ตอบสนองต่อวัคซีนของแอสตราเซเนกาได้เป็นอย่างดี สัมพันธ์กับการป้องกันที่นานและมีประสิทธิภาพสูง
เมเน แพนกาลอส รองประธานบริหารฝ่ายวิจัยและพัฒนา BioPharmaceuticals กล่าวว่า จากข้อมูลการใช้วัคซีนจริงแสดงให้เห็นว่า วัคซีนของแอสตราเซเนกา ป้องกันเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตาในระดับที่สูง ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ผู้คนมีความกังวล เนื่องจากแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว ข้อมูลดังกล่าวยังแสดงให้เห็นว่าวัคซีนป้องกัน COVID-19 จะยังมีบทบาทสำคัญมากทั่วโลก โดยยังมีความต้องการใช้วัคซีนในปริมาณมหาศาล โดยเฉพาะในอินเดียและประเทศที่เข้าร่วมในโครงการ COVAX
จากการวิเคราะห์ผู้ป่วยที่ติดเชื้อสายพันธุ์เดลตารวม 14,019 คน ในประเทศอังกฤษ มีจำนวน 166 คน เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเป็นผู้ป่วยฉุกเฉิน ระหว่างวันที่ 12 เม.ย.-4 มิ.ย.2564 ซึ่งข้อมูลการใช้วัคซีนในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตานี้ รวบรวมจากการติดตามผลแบบเฉพาะกลุ่มสำหรับผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 แล้ว ซึ่งอาจส่งผลต่อการประเมินประสิทธิผลของวัคซีน
สำหรับไวรัส COVID-19 สายพันธุ์เดลตา เป็นสายพันธุ์หลักที่แพร่ระบาดในอนุทวีปอินเดียและมีแนวโน้มจะระบาดไปในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ปัจจุบันสายพันธุ์เดลตาเข้ามาแทนที่สายพันธุ์อัลฟาที่แพร่ระบาดอย่างหนักในประเทศสกอตแลนด์และเพิ่มจำนวนผู้ติดเชื้อในสหราชอาณาจักร โดยคณะที่ปรึกษายุทธศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านภูมิคุ้มกันขององค์การอนามัยโลก แนะนำให้ใช้วัคซีนของแอสตราเซเนกาในประเทศที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้