วันนี้ (18 มิ.ย.2564) ตำรวจสืบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเข้าตรวจค้นอาคารพาณิชย์สูง 5 ชั้น ภายในซอยรัตนาธิเบศร์ 30 อ.เมือง จ.นนทบุรี หลังสืบทราบว่าเป็นสถานที่ทำการของกลุ่มปล่อยเงินกู้นอกระบบรายใหญ่ เมื่อตรวจสอบพบพนักงานทั้งผู้หญิงและผู้ชายรวมกว่า 70 คน กำลังปฏิบัติงานในทุกชั้น โดยโทรศัพท์ติดตามทวงหนี้
พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากประชาชนว่าได้กู้เงินนอกระบบผ่านแอปพลิเคชันตามสื่อออนไลน์ต่างๆ และพบว่ามี 6 แอปพลิเคชันที่กระทำการปล่อยเงินกู้ โดยเมื่อผู้กู้ตกลงกู้เงินแล้วจะต้องส่งข้อมูลส่วนตัว พร้อมบัตรประชาชนให้กับทางแอปพลิเคชัน และสามารถกู้เงินได้ครั้งละ 2,500-10,000 บาท โดยจะหักค่าธรรมเนียมครั้งแรกร้อยละ 30-42 และให้เวลาคืนเงินภายใน 7 วัน หากเกินวันแรกจะคิดดอกเบี้ย พร้อมค่าปรับร้อยละ 12 และวันต่อไปร้อยละ 5
ทั้งนี้ หากลูกหนี้ไม่ชำระเงินก็จะโทรศัพท์ตามทวงหนี้ ไปจนถึงญาติพี่น้องให้เกิดความอับอาย และมีลูกหนี้บางรายถูกโทรศัพท์ข่มขู่จึงเข้าแจ้งความ และได้รวบรวมหลักฐานขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหา 2 คน และค้นบ้านพักรวม 2 จุด พร้อมกับควบคุมตัวผู้ต้องหาสัญชาติจีน 1 คน และผู้หญิงชาวไทย 1 คน พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันประกอบกิจการทวงหนี้โดยไม่ได้รับอนุญาต
ผู้ต้องหา อ้างว่าเปิดบริษัทมาแล้วประมาณ 6 เดือน โดยมีนายทุนจากประเทศจีนเป็นผู้โอนเงินมาเป็นทุนไปปล่อยกู้ และเมื่อได้กำไรก็โอนคืนกลับไป และก่อนหน้านี้เคยเปิดบริษัทมาแล้วก่อนปิดตัวลงไป เนื่องจากมีพนักงานติด COVID-19 และได้มาเปิดใหม่ โดยให้ผู้ที่จะมาทำงานจะต้องไปตรวจ COVID-19 มาก่อน
นอกจากนี้ ยังสามารถยึดคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ และโน้ตบุ๊ก โทรศัพท์มือถืออย่างละกว่า 100 เครื่อง สมุดบัญชี และบัตรกดเงินสดอีกจำนวนมาก เบื้องต้น ยังพบเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่า 200 ล้านบาท และควบคุมตัวผู้ต้องหาและพนักงานไปสอบสวนเพิ่มเติม และขยายผลถึงผู้เที่เกี่ยวข้องต่อไป