วานนี้ (8 ก.ค.2564) นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีเพลิงไหม้โรงงาน บริษัทหมิงตี้ เคมิคอล จำกัด ซอยกิ่งแก้ว 21 จ.สมุทรปราการว่า ขณะนี้กรมโรงงานได้สั่งปิดโรงงานชั่วคราวไปแล้ว และกระทรวงอุตสาหกรรมไม่มีนโยบายที่จะให้โรงงานหมิงตี้ กลับมาดำเนินการในพื้นที่เดิมอีก เนื่องจากอยู่ใกล้ชุมชน หากจะกลับมาดำเนินการจะต้องเข้าสู่นิคมอุตสาหกรรมเท่านั้น และผ่านขั้นตอนตามกฏหมายอื่นๆ ที่กำหนดไว้
นายสุริยะ กล่าวว่า ขณะนี้มอบหมายให้กรมโรงงานอุตสาหกรรม ทำแผนรายงานปริมาณสารเคมี แผนความเสี่ยง โดยเฉพาะโรงงานเคมีภัณฑ์ที่คาดว่ามีอยู่ 446 โรงงาน ต้องรายงานแผนการจัดเก็บสารเคมี ตรวจประเมินเพิ่มมาตรการความปลอดภัย รวมทั้งต้องลดสต็อก จัดเก็บสารเคมีเท่าที่จำเป็นในการผลิตในระยะเวลาที่เหมาะสม และให้ดูเรื่องย้ายโรงงานที่เกี่ยวข้องกับสารเคมี ที่อยู่กลางชุมชนออกนอกพื้นที่
ส่วนการกำจัดสารสไตรีนโมโนเมอร์ที่ยังเหลืออยู่ 1,000 ตัน ทาง ปตท.และดาว เคมีคอล จะเข้ามาช่วยในการเติมสาร DEHAเพื่อลดปฏิกิริยาทางเคมีให้มีความเสถียร และนำไปกำจัดอย่างถูกวิธีต่อไป คาดว่าจะย้ายออกไปได้ภายใน 2-3 วันนี้
คพ.เล็งฟ้องค่าเสียหายทางสิ่งแวดล้อม
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวว่า จากผลการตรวจสอบสถานการณ์มลพิษในพื้นที่ดีขึ้นตามลำดับ เหลือเพียงการตรวจสอบสารเคมี และกากของเสียอันตรายที่ตกค้างอยู่ในพื้นที่โรงงาน เพื่อหาแนวทางการจัดการบำบัดและขนย้ายออกไปกำจัดตามหลักวิชาการต่อไป ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ NPC ยังคงเฝ้าระวังเกี่ยวกับการเติมสาร DEHA ที่จะไปช่วยยับยั้งการเกิดปฏิกิริยาโพลิเมอร์ไรเซชั่น และสาร F500 ที่จะช่วยป้องกันการลุกติดไฟของสารสไตรีนที่รั่วไหล พร้อมทั้งตรวจสอบอุณหภูมิของถังตลอดเวลา
สถานการณ์คุณภาพอากาศในวัในรัศมี 1-2 กิโลเมตร อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน เหลือเพียงพื้นที่ในรัศมี 1 กิโลเมตรรอบพื้นที่โรงงาน ที่ต้องตรวจสอบและเฝ้าระวัง รวมทั้ง การตรวจสอบน้ำที่ปนเปื้อนจากการดับเพลิงในพื้นที่โรงงาน การตรวจสอบคุณภาพอากาศบริเวณที่เกิดเหตุและชุมชนโดยรอบในรัศมี 0.5, 1 และ 2 กิโลเมตร และเก็บตัวอย่างน้ำผิวดินในชุมชนโดยรอบ
ข้อมูลผลการวิเคราะห์ทั้งหมดจะนำมาประมวลผลเพื่อประเมินความเสี่ยง และความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งพิจารณาหาแนวทางในการจัดการเพื่อลดปัญหามลพิษและฟื้นฟูสภาพแวดล้อม
นายอรรถพล กล่าวว่า ส่วนทีม คพ.และเจ้าหน้าที่กรมวิทยาศาสตร์ทหารบกร่วมกันประเมินปริมาณความเข้มข้นของสารสไตรีนและฟอร์มัลดีไฮด์ที่ตกค้าง นอกจากนี้ยังขอความร่วมือประชาชนใช้น้ำรอบพื้นที่เกิดเหตุ ไม่ว่าจะเป็นน้ำฝน น้ำคลอง ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัส และนำน้ำฝนมาใช้ในการอุปโภคบริโภคในช่วงนี้ ส่วนน้ำประปา สามารถใช้ในการอุปโภคบริโภคได้ตามปกติ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ฉีดสารดับเพลิงโฟม เปลี่ยนสภาพสไตรีนไม่ให้ติดไฟ - ปะทุซ้ำ
สั่งปิด "หมิงตี้" ชั่วคราว ขีดเส้นเก็บกู้ของเสียภายใน 20 ส.ค.