วันนี้ (10 ก.ค.2564) นายสมบัติ บุญงามอนงค์ และกลุ่มไทยไม่ทน จัดกิจกรรมคาร์ม็อบ โดยนัดหมายมวลชนที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เวลา 13.00 น. เพื่อเคลื่อนขบวนไปยังพรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาล ยื่นหนังสือให้พรรคประชาธิปัตย์ พลังประชารัฐ ภูมิใจไทย และรวมพลังประชาชาติไทย ก่อนจะไปรวมตัวจุดสุดท้ายที่แยกราชประสงค์
กิจกรรมคาร์ม็อบ เป็นการขับรถยนต์ รถจักรยานยนต์ พร้อมประกาศให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมตรี ลาออกจากตำแหน่ง พร้อมกับบีบแตรตลอดเส้นทาง ซึ่งจะเคลื่อนขบวนในพื้นที่กรุงเทพมหานครเท่านั้น
นายสมบัติ ยื่นหนังสือถึงพรรคประชาธิปัตย์ โดยขอให้หยุดการสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพราะรัฐบาลไร้ความสามารถในการแก้วิกฤต COVID-19 ระบบเศรษฐกิจล้มเหลว ไร้ประสิทธิภาพในการจัดการ สร้างความเสียหายต่อชีวิตประชาชนและประเทศชาติ พร้อมเรียกร้องให้ถอนตัวออกจากกลุ่มรัฐบาล
ทั้งนี้ นายสมบัติได้ชูข้อความ "เลิกพายเรือให้ลุงนั่ง" ด้านหน้าป้ายพรรคประชาธิปัตย์ที่มีรูปของ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ติดอยู่
หลังจากนั้น ขบวนคาร์ม็อบได้เคลื่อนขบวนไปยังพรรคพลังประชารัฐ เพื่อทำกิจกรรมแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ทางการเมือง ด้วยการนำแป้งมันมาโรยหน้าพรรคและมอบแป้ง 2 ถุงให้กับตัวแทนของพรรคที่ออกมารับ
พร้อมระบุว่าเป็นสัญลักษณ์ว่าพรรคพลังประชารัฐ เป็นพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ทั้งที่มีข้อครหาและกังขา ไม่มีสถานะที่จะสร้างความภาคภูมิใจเป็นตัวแทนพรรคแกนนำรัฐบาล และคาดหวังว่าพรรคจะพิจารณาลงจากตำแหน่ง ทั้งหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค หากยังอยู่ในพรรคถือว่าไม่สมศักดิ์ศรี
เวลาประมาณ 15.00 น. คาร์ม็อบเคลื่อนขบวนไปยังพรรคภูมิใจไทย โดยอ่านแถลงการณ์ขอให้พรรคภูมิใจไทย ลาออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อเป็นการแสดงถึงความกล้าหาญ และเป็นผู้นำในสถานการณ์วิกฤตนี้ พร้อมชูป้ายที่มีข้อความว่า "ภูมิ ไม่ขึ้น" เป็นสัญลักษณ์
เวลาประมาณ 16.00 น. กลุ่มคาร์ม็อบเคลื่อนขบวนถึงศูนย์การค้าเซนทรัลเวิล์ด และพร้อมใจกันบีบแตรกดดัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้พ้นจากตำแหน่ง การชุมนุมด้านหน้าศูนย์การค้าเซนทรัลเวิล์ด มีกลุ่มไทยไม่ทน กลุ่มราษฎรนนทบุรี และแนวร่วมกลุ่มต่าง ๆ เข้าร่วม ทำให้ต้องปิดการจารจรฝั่งมุ่งหน้าไปแยกประตูน้ำ โดยมีการปราศรัยถึงการทำงานของรัฐบาล สลับกับกิจกรรมเล่นดนตรี
เวลา 16.30 น. กลุ่มคาร์ม็อบประกาศยุติการชุมนุม โดยยังไม่มีการนัดหมายชุมนุมครั้งใหม่
การจัดกิจกรรมทางการเมืองครั้งนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย แต่ละสถานที่มีตำรวจดูแลรักษาความปลอดภัย ภายใต้บังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ที่มีข้อกำหนดห้ามรวมตัวกันเกิน 5 คน