วันนี้ (11 ก.ค.2564) สมาคมสื่อสร้างสรรค์ เพื่อเด็ก เยาวชน และครอบครัว ภาคตะวันออก ทำหนังสือเปิดผนึกถึง พี่น้องประชาชนภาคตะวันออก หน่วยงานเอกชน และหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง ระบุว่า
ขอให้ตรวจเชิงรุกหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ให้กับประชาชนภาคตะวันออก ที่มีการเดินทางหรือติดต่อกับผู้ที่เดินทางเข้าออก ตลาดไท จ.ปทุมธานี ระหว่าง วันที่ 20 มิ.ย.2564 ถึงวันที่ 4 ก.ค.2564
โดยอ้างถึงการแถลงข่าวของศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เมื่อช่วงเที่ยงของ วันนี้ ในประเด็น การพบผู้ป่วยรายใหม่จำนวนมาก จากการค้นหาเชิงรุกที่ตลาดไท จ.ปทุมธานี โดยมีผู้ที่ได้รับการยืนยันว่า ได้รับเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 แล้วรวม 826 ราย ณ วันที่ 11 ก.ค.2564 รวมสะสม 2,938 รายแล้ว
ทางสมาคมสื่อสร้างสรรค์ฯ ที่มีหน้าที่ในการทำงานเผยแพร่ข้อมูลที่ถูกต้อง และเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ เพื่อประชาชนทุกคนในภาคตะวันออก เป็นห่วงกังวลอย่างยิ่ง ต่อการแพร่ระบาดในลักษณะนี้ ว่า
อาจจะคล้ายกับการระบาดคลัสเตอร์ทองหล่อ กรุงเทพมหานคร ที่ทำให้มีผู้ที่ติดเชื้อกระจายไปทั่วในหลายจังหวัดของประเทศไทย เนื่องจากตลาดแห่งนี้มีประชาชนเดินทางไปซื้อขายหลายหมื่นคนต่อวัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภาคตะวันออกนั้น ถือเป็นแหล่งผลิต อาหาร พืช ผัก ผลไม้ วัตถุดิบและผลิตภัณฑ์อื่นๆ แหล่งใหญ่ลำดับต้นๆ ของประเทศ ที่ส่งไปขายในตลาดไท อีกทั้งตลาดไทเอง ก็ยังเป็นแหล่งวัตถุดิบหลักๆ ของประชาชนในภาคตะวันออก ที่มีการซื้อขายกลับมาบริโภคในพื้นที่ต่างๆ ของภาคอีกด้วย
แม้ว่าทางตลาดไทจะมีการประกาศ แจ้งปิดให้บริการตลาด บางอาคาร ในวันที่ 5 – 14 ก.ค.2564 ไปแล้ว ทั้งในส่วนของตลาดผลไม้ฤดูกาล ตลาดอาหารทะเล ตลาดปลาน้ำจืด ตลาดขนม-ของแห้ง ลานผัก ตลาดผัก ตลาดสด และศูนย์อาหาร 1
และมีการตรวจเชิงรุกภายในพื้นที่ของตลาดทั้งหมด เพื่อคัดกรองให้ตลาดไทปลอดภัย โดยจะกลับมาเปิดบริการอีก ครั้งในวันที่ 15 ก.ค.ที่จะถึงนี้ แต่ก็เริ่มพบว่า มีผู้ติดเชื้อที่มีประวัติเชื่อมโยงมาตลาดไทในช่วงก่อนหน้านี้ เช่น เกษตรกร จ. ราชบุรี หรือ จ.พิษณุโลก
สมาคมสื่อสร้างสรรค์ฯ จึงขอความร่วมมือไปยังประชาชนภาคตะวันออก ที่มีการเดินทางหรือติดต่อกับผู้ที่เดินทางเข้าออก ณ ตลาดไท จ.ปทุมธานี ระหว่างวันที่ 20 มิ.ย. - 4 ก.ค.2564 ให้เข้ารับการตรวจหาเชื้อไวรัส COVID-19 โดยเร่งด่วนที่สุด ณ ศูนย์ตรวจหาเชื้อใกล้บ้านของท่าน
และขอเรียกร้องไปยังหน่วยงานเอกชน และหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการในการตรวจหาเชื้อ ในแต่ละจังหวัดของภาคตะวันออก ให้มีการประสานงานร่วมกันโดยเร่งด่วน ในการอำนวยความสะดวกให้กับภาคประชาชนกลุ่มเสี่ยงดังกล่าว ให้ได้รับการตรวจหาเชื้อและรับทราบผลโดยเร็วที่สุด
ก่อนที่พวกเขาเหล่านี้จะกลายเป็นพาหะ แพร่ไปยังครอบครัวและขุมชน โดยรอบ เหมือนที่เคยเกิดขึ้นแบบคลัสเตอร์ทองหล่อ ที่ทำให้เกิดการเจ็บป่วยและเสียชีวิตของประชาชนเป็นจำนวนมาก
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ศบค.จับตา "คลัสเตอร์ตลาดไท" ตรวจเชิงรุกพบติดโควิดเพิ่ม 826 คน