วันนี้ (12 ก.ค.2564) นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กล่าวว่า กรมทรัพยากรน้ำบาดาล ได้เก็บตัวอย่างดินและน้ำรอบโรงงาน หมิงตี้ เคมิคอล จำกัด ที่เกิดเหตุระเบิดและไฟไหม้ มาตรวจสอบคุณภาพน้ำและสารพิษ สารเคมีปนเปื้อน
หลังจากประชาชนมีความกังวลใจ และสอบถามเรื่องคุณภาพน้ำบาดาลหลังเกิดเหตุไฟไหม้สามารถใช้อุปโภค-บริโภคได้หรือไม่
จากตรวจสอบสภาพพื้นที่เบื้องต้น คุณภาพน้ำบาดาลไม่น่ามีปัญหา ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก เพราะดินเหนียวบริเวณนั้นหนามากกว่า 20 เมตร ถือเป็นป้อมปราการอย่างดีในการป้องกันการซึมลงสู่ชั้นน้ำบาดาล และสารเคมีจะเคลื่อนที่ได้ช้ามาก หรือดูดซับไว้ไม่ให้ผ่านลงไปถึงชั้นน้ำระดับลึกได้
ภาพ:กรมทรัพยากรน้ำบาดาล
คาดรู้ผลตรวจสารตกค้างในน้ำบาดาล
นายศักดา กล่าวต่อว่า สำหรับบ่อน้ำบาดาลที่ขุดเจาะ เพื่อใช้น้ำลึกมากกว่า 150 เมตร โดยสารสไตรีนโมโนเมอร์ เป็นสารอินทรีย์ระเหยง่ายชนิดเบา มีความหนาแน่นน้อยกว่าน้ำ และละลายน้ำได้น้อย โดยไม่ผสมเป็นเนื้อเดียวกับน้ำ และจะลอยอยู่บนผิวน้ำมีค่าครึ่งชีวิต 3 ชั่วโมงขึ้นอยู่กับสภาวะออกซิเจน และแบคทีเรียดังนั้นสารเคมีจะระเหยขึ้นไปในอากาศมากกว่าที่จะซึมลงดิน
ทั้งนี้ เพื่อความสบายใจของประชาชน จึงส่งทีมเจ้าหน้าที่นักธรณีวิทยา และนักวิทยาศาสตร์เก็บตัวอย่างดิน น้ำผิวดิน และน้ำบาดาลจากบ่อสังเกตการณ์ของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล บ่อน้ำของประชาชน และโรงงานเอกชนในพื้นที่รัศมี 15 กิโลเมตรรอบโรงงาน อีกครั้ง รวม 72 ตัวอย่าง
เพื่อมาตรวจวิเคราะห์คุณลักษณะทางด้านกายภาพและเคมี สารโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว สารหนู และสารอินทรีย์ระเหยง่ายที่สัมพันธ์กับสารสไตรีนโมโนเมอร์ หากผลวิเคราะห์คุณภาพน้ำบาดาลออกมา จะแจ้งให้ประชาชนรับทราบต่อไป คาดว่าจะรู้ผลสัปดาห์นี้
เร่งขนถ่ายสารสไตรีนไปกำจัด
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวว่า การขนสารสไตรีนที่ตกค้างในโรงงาน ใน 2 วันที่ผ่านมา สามารถขนถ่ายสารสไตรีนรวม 9 เที่ยว น้ำหนักรวม 100 ตัน โดยเจ้าหน้าที่ คพ.ได้เข้าตรวจวัดระดับสารสไตรีนที่คงเหลือในถังด้วยการดิ่ง เพื่อหาระดับความสูง แล้ววัดระดับสไตรีนคงเหลือ ที่ระดับความลึก 3.7 เมตร จากก้นบ่อ
คำนวณปริมาตรสารสไตรีนในถัง 227 ลูกบาศก์เมตรต่อ 1 เมตร จึงเหลือสไตรีนในถังประมาณ 840 ลูกบาศก์เมตร จากสารสไตรีนโมโนเมอร์คงค้างทั้งหมด 600 ตัน คาดว่ากรอบเวลาการทำงานขนถ่ายจะเร็วขึ้น จากแผนที่ได้วางไว้
ภาพ:กรมควบคุมมลพิษ
การเก็บขนถ่านหินที่โรงงานใช้เป็นเชื้อเพลิง ในหม้อน้ำของโรงงาน ที่กองอยู่ภายในโรงงาน จะขนย้ายออกไปเป็นเชื้อเพลิงในโรงงานปูนซีเมนต์ไทย 20 ตัน และเหลืออีก 8 ตัน
สำหรับวันนี้ (12 ก.ค.) วันที่ 3 ของปฏิบัติการขนถ่ายสารสไตรีนไปทำลายได้ปรับแผนการขนถ่ายสไตรีนจากเดิมครั้งละ 1 คัน เป็นครั้งละ 2 คัน พร้อมเก็บรวบรวมน้ำเสียจากการดับเพลิง ประมาณ 200-300 ลูกบาศก์เมตร นำไปบำบัดที่บริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำกัด จ.สระบุรี
และขนถ่ายถ่านหินที่เหลืออีกประมาณ 8 ตัน เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ปฏิบัติงานและชุมชนรอบข้างระยะ 100 เมตร แล้วขนถ่ายไปเผาเป็นเชื้อเพลิงที่บริษัท ปูนซีเมนต์ไทย จ.สระบุรี
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
เริ่มขนย้ายสารเคมีหมิงตี้ กำจัดนิคมฯ บางปู คาดใช้เวลา 5 วัน
"สุริยะ" คาดกู้สารสไตรีน 1 พันตันจบ 1-2 วันเบรก "หมิงตี้" ผุดที่เดิม
สั่งปิด "หมิงตี้" ชั่วคราว ขีดเส้นเก็บกู้ของเสียภายใน 20 ส.ค.