วันนี้ (13 ก.ค.2564) น.ส.เพ็ญโฉม แซ่ตั้ง ผู้อำนวยการมูลนิธิบูรณะนิเวศ เปิดเผยว่า มูลนิธิบูรณะนิเวศ เรียกร้องให้นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม สอบสวนข้อเท็จจริงกรณีการอนุญาตให้โรงงานหมิงตี้ เคมีคอล ขยายกำลังการผลิตเม็ดโฟม เพิ่มจากเดิม 15 เท่าในปี 2562 ทั้งที่ชุมชนอยู่รายล้อมโรงงาน และสนามบินแห่งชาติเกิดขึ้นแล้ว
ขณะที่กรมโรงงานอุตสาหกรรมจะต้องแสดงความรับผิดชอบ โดยบังคับให้ชดเชยค่าเสียหายกรณีสารเคมีระเบิด ทั้งเฉพาะหน้าและระยะยาว เช่น ค่ารักษาพยาบาลผู้ได้รับบาดเจ็บ และค่าซ่อมแซมบ้านเรือนที่เสียหาย นอกจากนี้จะต้องประสานกับกระทรวงสาธารณสุข จัดตั้งกองทุนสนับสนุนค่ารักษาพยาบาลให้กับประชาชนในพื้นที่ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยและดับเพลิง โดยให้หมิงตี้เป็นผู้จ่ายทั้งหมด
ขณะเดียวกันมีหน่วยงานภายใต้กระทรวงสาธารณสุข ทำหน้าที่เฝ้าระวังสุขภาพของประชาชน และเจ้าหน้าที่กู้ภัยและดับเพลิงอย่างใกล้ชิด รวมทั้งต้องประสานงานกับกรมควบคุมมลพิษให้เฝ้าระวังและฟื้นฟูคุณภาพสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ต่อไปด้วย
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเหตุระเบิดและเพลิงไหม้ที่โรงงานหมิงตี้ เคมีคอล จำกัด ในซอยกิ่งแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา ทำให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเสียชีวิต 1 คน มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติงาน และมีประชาชนได้รับอันตรายจากการสูดดมควันพิษเป็นจำนวนมาก รวมถึงความเสียหายทางทรัพย์สินและสิ่งแวดล้อมอื่นๆ ที่ไม่สามารถประเมินมูลค่าได้
น.ส.เพ็ญโฉม ระบุว่า แม้ว่าโรงงานหมิงตี้ไม่ได้กระทำความผิดในเรื่องผังเมือง เนื่องจากโรงงานตั้งในพื้นที่นี้ก่อนจะมีกฎหมายผังเมือง แต่การที่กรมโรงงานฯ ยังอนุญาตให้โรงงานแห่งนี้ ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ไม่ใช่พื้นที่อุตสาหกรรมตามลักษณะการใช้ประโยชน์ของกฎหมายผังเมือง ย่อมเป็นเรื่องผิดกฎหมาย
สำหรับกรณีหมิงตี้ ไม่ใช่ครั้งแรกที่ประเทศไทยต้องเผชิญกับอุบัติภัย ที่เกิดจากความผิดพลาดของภาคอุตสาหกรรม ในอดีตเคยเกิดหลายเหตุการณ์ บางกรณีอาจไม่เป็นข่าว แม้มีความสูญเสียที่น่าสะเทือนใจ
น.ส.เพ็ญโฉม กล่าวอีกว่า กรณีทั้งหมดเกี่ยวข้องกับความบกพร่องของหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งในปัจจุบันยังพบว่ามีโรงงานผลิตเม็ดโฟมและพลาสติกลักษณะเดียวกับโรงงานหมิงตี้อีกหลายแห่งใน จ.สมุทรปราการ และจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งมูลนิธิกำลังรวบรวมข้อมูล และจะนำเสนอให้สังคมได้รับทราบและร่วมกันเฝ้าระวังต่อไป
นอกจากนี้มูลนิธิฯ ยังติดตามเรื่องการขนย้ายกากอุตสาหกรรมไวไฟจำนวนมากออกจากโรงงานหมิงตี้ เพราะหากขนย้ายและจัดเก็บกากทำไม่ถูกวิธี ก็จะเป็นเพียงการย้ายระเบิดเวลาออกไปจากย่านกิ่งแก้ว ซึ่งอาจไปสร้างความเสี่ยงให้กับชุมชนที่อาศัยรอบๆ พื้นที่จัดเก็บต่อไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
เตือน! "คลองชวดลากข้าว" ใกล้หมิงตี้ปนเปื้อน "สารสไตรีน"
รอผลตรวจสไตรีนตกค้าง "น้ำบาดาล" รอบโรงงานหมิงตี้ 15 กม.
เริ่มขนย้ายสารเคมีหมิงตี้ กำจัดนิคมฯ บางปู คาดใช้เวลา 5 วัน