วันนี้ (24 ก.ค.2564) ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ในฐานะโฆษก สปสช. กล่าวว่า ตามที่มีประชาชนได้ร้องเรียนการใช้บริการสายด่วน สปสช. 1330 ในขณะนี้ เนื่องจากไม่สามารถโทรติดต่อได้ และต้องรอสายบริการเป็นเวลานาน
สปสช.รับทราบปัญหาและอยู่ระหว่างการแก้ไขโดยด่วน ทั้งนี้ด้วยเหตุจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่และผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างมาก ประกอบกับ สปสช. ได้ดำเนินประสานหาเตียง จัดบริการตรวจหาเชื้อโควิด-19 เชิงรุก และจัดระบบดูแลผู้ป่วยโควิดกลุ่มสีเขียวที่บ้านและในชุมชน (Home-Community Isolation: HI/CI) ส่งผลให้อัตราการโทรสายด่วน สปสช. 1330 เพิ่มขึ้นหลายเท่า
ตัวอย่างข้อมูลบริการสายด่วน สปสช. 1330 เฉพาะเมื่อวันที่ 23 ก.ค.64 มีจำนวนการโทรเข้าทั้งหมด 24,508 ครั้ง มากกว่าช่วงสถานการณ์ปกติ 3-4 เท่า
ในจำนวนนี้เป็นสายที่เข้าหาเจ้าหน้าที่ 14,001 ครั้ง เจ้าหน้าที่รับสายได้ 6,525 ครั้ง เกินศักยภาพระบบที่รองรับ ส่งผลให้เกิดการบริการที่ล่าช้า บางช่วงเวลามีคิวการรอสายสูงถึง 14 สาย รวมถึงมีสายที่ไม่ได้รับบริการ
แม้ที่ผ่านมา สปสช. ได้เพิ่มเจ้าหน้าที่รับสาย พร้อมการขยายคู่สายรองรับ 1,600 สาย แล้วก็ตาม ซึ่งเฉพาะสายที่มีความต้องการเข้าสู่ระบบการดูแลผู้ป่วยโควิดกลุ่มสีเขียวที่บ้าน ด้วยการกดสายด่วน สปสช. 1130 กด 14 ตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา ก็มีจำนวนการโทรเฉลี่ยเกือบ 9,000 ครั้งต่อวัน
นอกจากนี้ ในจำนวนสายที่โทรมาสายด่วน สปสช. 1330 ยังมีสัดส่วนที่ผู้ประกันตน ที่โทรเข้ามาสอบถามใช้สิทธิรักษาพยาบาลและสิทธิต่าง ๆ ในระบบประกันสังคมค่อนข้างมาก รวมถึงการขอเข้าสู่ระบบการดูแลผู้ป่วยโควิดสีเขียวที่บ้าน ในส่วนที่เป็นผู้ประกันตน
โดยรายงาน บางวันมีสัดส่วนสูงถึง 30% ของสายที่โทรเข้า ส่งผลให้ สปสช. ต้องเพิ่มช่องทางพิเศษสำหรับผู้ประกันตน โทร 1330 กด 16 โดยเฉพาะ ซึ่งข้อมูลในวันที่ 23 ก.ค.64 มีการกด 16 จำนวน 4,830 ครั้ง
ขณะนี้ สปสช. อยู่ระหว่างดำเนินการแก้ปัญหาโดยเร็ว โดยจะเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่รับสาย และขยายคู่สายอีก 500 คู่สาย และได้เพิ่มช่องทางต่าง ๆ ในการติดต่อกับ สปสช. ให้กับประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการลงทะเบียนด้วยตนเอง
เพื่อเข้าสู่ระบบดูแลที่บ้าน ผ่านเว็บไซต์ https://crmsup.nhso.go.th/ หรือแจ้งผ่านไลน์ @nhso ไปที่เมนูลงทะเบียนระบบดูแลที่บ้าน (Home Isolation) หรือการแจ้งความประสงค์ เพื่อขอกลับไปรักษาตัวที่ภูมิลำเนา ผ่านเว็บไซต์ https://crmdci.nhso.go.th/