ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

เทียบอาการโควิด 4 สายพันธุ์

สังคม
8 ส.ค. 64
11:25
88,855
Logo Thai PBS
เทียบอาการโควิด 4 สายพันธุ์
กรมการแพทย์ เทียบอาการ COVID-19 ที่พบระบาด 4 สายพันธุ์ในไทยแบบไหนมีอาการมากสุด ต้องสังเกตตัวเองคนใกล้ตัว แนะใส่หน้ากาก 2 ชั้นออกนอกบ้าน ขณะที่มีการประเมิน 2 สัปดาห์นี้ตัวเลขการติดเชื้อในต่างจังหวัดจะถึงจุดพีคสูงสุด

วันนี้ (7 ส.ค.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์ข้อมูล COVID-19 รายงานว่าข้อมูลจากกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข  เปิดเผยข้อมูลของอาการ COVID-19 สายพันธุ์ต่าง ๆ ที่ระบาด ประกอบด้วย สายพันธุ์เดลตา หรือสายพันธุ์อินเดีย  สายพันธุ์อัลฟา หรือสายพันธ์ุอังกฤษ สายพันธุ์เบตาหรือสายพันธุ์แอฟริกา และสายพันธุ์ S (ระบาดระลอกแรกในไทย) พบว่าแต่ละสายพันธุ์ จะมีอาการได้ ดังต่อไปนี้

อาการ COVID-19 สายพันธุ์เดลตา

  • อาการคล้ายหวัดธรรมดา
  • ไม่ค่อยสูญเสียการรับรส
  • มีน้ำมูก
  • เจ็บคอ
  • ปวดศีรษะ

อาการโควิดสายพันธุ์อัลฟา

  • มีไข้ (มักมีไข้ตั้งแต่ 37.5 องศาเซลเซียสขึ้นไป)
  • ไอ เจ็บคอ
  • หายใจหอบเหนื่อย
  • อาเจียนหรือท้องเสีย
  • มีน้ำมูก
  • ปวดเมื่อย
  • ปวดศีรษะ
  • หนาวสั่น
  • การรับรสหรือได้กลิ่นผิดปกติ

อาการโควิดสายพันธุ์เบตา

  • อาการเจ็บคอ
  • ปวดศีรษะ
  • ปวดเมื่อย
  • ท้องเสีย
  • ตาแดง
  • มีผื่นตามผิวหนัง
  • นิ้วมือ/เท้าเปลี่ยนสี
  • การรับรส/ได้กลิ่นผิดปกติ

สายพันธุ์ S (ระบาดระลอกแรกในไทย)

  • ไอต่อเนื่อง
  • ลิ้นไม่รู้รส
  • จมูกไม่ได้กลิ่น
  • หอบเหนื่อย
  • หายใจลำบาก
  • มีไข้ 37.5 องศาขึ้นไป

ทั้งนี้ กรมควบคุมโรค ระบุว่าการติดเชื้อในขณะนี้มาจาก 2 สายพันธุ์หลัก คือ สายพันธุ์เดลตา ร้อยละ 69.1 ส่วนสายพันธุ์อัลฟา ร้อยละ 28.2 ซึ่งเชื้อไวรัสนี้ติดต่อได้ง่ายและรวดเร็ว การใส่หน้ากากอนามัย 100% จะช่วยลดการแพร่เชื้อและป้องกันการรับเชื้อได้เป็นอย่างดี ควรสวมหน้ากากตลอดเวลา ทั้งขณะอยู่ในบ้านและนอกบ้าน โดยยึดหลัก 3 ถูก ถูกเวลา ถูกวิธี ถูกชนิด

ในบ้านเป็นพื้นที่ปิด ใส่หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย 1 ชั้นก็พอ แต่หากต้องไปในแหล่งชุมชน เช่น ตลาด ซูเปอร์มาร์เก็ต ขอให้ใส่ 2 ชั้นโดยใส่หน้ากากทางการแพทย์ไว้ด้านใน และสวมหน้ากากผ้าไว้ด้านนอก จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพป้องกันเชื้อได้ดีขึ้น

ปัจจัย 2 สัปดาห์จุดพีคระบาด ตจว.

ด้าน นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผอ.กองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กล่าวถึงการคาดการณ์สถานการณ์ในต่างจังหวัด 2 สัปดาห์ว่า ในส่วนของต่างจังหวัด มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจาก 3 ส่วน เนื่องจาก
ผู้ติดเชื้อเดินทางกลับจาก กทม.และพื้นที่ระบาด ไปรับการรักษาโดยเฉพาะในแถบภาคอีสาน และภาคเหนือตอนล่างที่รับผู้ติดเชื้อกลับไปดูแลต่อเนื่อง ซึ่งมีการประสานงานล่วงหน้า 

ขณะที่บางส่วนที่กลับไปก่อนหน้านี้ ไม่ได้ประสานงานล่วงหน้า เพราะคิดว่าตัวเองไม่ติดเชื้อ COVID-19 หรือคิดว่าไม่มีความเสี่ยง แต่กลับเป็นผู้มีความเสี่ยง เช่น ติดเชื้อไม่มีอาการ ไม่ทราบว่าตัวเองติดเชื้อ แพร่ต่อ หากเจอผู้สูงอายุอาจทำให้เกิดอาการป่วยหนัก 

การติดเชื้อในต่างจังหวัดพบว่า ในโรงงาน สถานประกอบการมีคนติดเชื้อมากขึ้น โดยทั้ง 3 กลุ่มจำเป็นต้องควบคุมให้ดี  คนที่เดินทางต่างจังหวัด ทำธุรกิจ ในพื้นที่ระบาด ต้องคิดเสมอว่าตัวเองมีความเสี่ยง ต้องปฏิบัติตัว ป้องกันตัวเอง จะได้ลดการติดเชื้อ แพร่เชื้อลงได้

ในอีก 2 สัปดาห์แม้จะมีการคาดการณ์จุดพีคสูงสุด แต่หากป้องกันตัวเองดี ดูแลคนในครอบครัวไม่ให้ติดเชื้อ ก็จะไม่เห็นสถานการณ์แบบนั้น 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

กรมควบคุมโรคยันไม่ได้ส่งไฟเซอร์ให้ "หมอยง" เร่งกระจายแอสตราฯ 9 ส.ค.

สธ.ชี้ล็อกดาวน์ได้ผลติดเชื้อโควิดลด 20 % ใกล้โมเดลคาดการณ์

 

 

แท็กที่เกี่ยวข้อง:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง