วันนี้ (10 ส.ค.2564) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า การเปิดเผยดังกล่าวมีขึ้นหลังจากองค์การอนามัยโลก ได้รับการยืนยันจากรัฐบาลกินี ว่าเจ้าหน้าที่ตรวจพบเชื้อไวรัสมาร์เบิร์กในตัวอย่างที่เก็บมาจากคนไข้ ที่เสียชีวิตในจังหวัดทางตอนใต้ของประเทศ เมื่อวันที่ 2 ส.ค.ที่ผ่านมา
ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ต้องออกคำสั่ง ให้ติดตามอาการของสมาชิกในครอบครัวของผู้เสียชีวิต 3 คน และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอีก 1 คน ซึ่งสัมผัสใกล้ชิดและเสี่ยงสูง รวมทั้งเร่งสอบสวนโรคเพื่อหาต้นตอการระบาดและผู้สัมผัสใกล้ชิดคนอื่นๆ
ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก ประจำภูมิภาคแอฟริกา ระบุว่า เชื้อไวรัสชนิดนี้มีโอกาสที่จะแพร่ระบาดเป็นวงกว้างออกไปได้ไกล ซึ่งจำเป็นต้องเร่งสกัดการแพร่ระบาด
โดยองค์การอนามัยโลกจะร่วมมือกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ เพื่อรับมือกับโรคนี้ ซึ่งกินีมีประสบการณ์และเชี่ยวชาญในการรับมือกับโรคระบาดจากการต่อสู้กับอีโบลามาแล้ว
สำหรับไวรัสมาร์เบิร์ก พบในค้างคาวและสามารถติดต่อสู่คนได้ ขณะที่การระบาดจากคนสู่คนเกิดขึ้นได้ จากการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อ รวมทั้งการสัมผัสพื้นผิว หรือวัตถุที่ปนเปื้อนเชื้อ โดยมีอัตราการเสียชีวิตระหว่างร้อยละ 24 ถึงร้อยละ 88 ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์และการจัดการกับการติดเชื้อ
องค์การอนามัยโลกพิจารณาให้เชื้อไวรัสตัวนี้เป็นภัยคุกคามสูงในระดับประเทศและภูมิภาค แต่ยังไม่น่ากังวลมากนักในระดับโลก โดยการพบผู้เสียชีวิตในกินีครั้งนี้ นับเป็นครั้งที่สอง ที่พบผู้ติดเชื้อดังกล่าวในภูมิภาคแอฟริกาตะวันตก หลังจากก่อนหน้านี้ เคยพบการระบาดในแอฟริกาใต้ แองโกลา เคนยา และยูกันดามาแล้ว
ที่มา : AFP