วันนี้ (20 ส.ค.2564) ในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 วาระ ที่ 2 เริ่มที่มาตรา 18 กระทรวงพลังงาน เน้นไปที่งบประมาณรายจ่าย ที่ตั้งไว้ 1,873 ล้านบาท หลังกรรมาธิการฯ ตัดไปแล้วกว่า 10 ล้านบาท
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ให้ข้อสังเกตว่า รัฐต้องจัดสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานให้ประชาชนตามรัฐธรรมนูญรับรอง มากกว่าร้อยละ 50 แต่ในทางปฏิบัติกลับพบว่า รัฐยังซื้อไฟฟ้าจากเอกชนมากกว่าร้อยละ 70
ขอตัดลดงบ ก.พลังงาน 10%
ด้านนายเกียรติ สิทธีอมร ส.ส.ประชาธิปัตย์ ขอสงวนคำแปรญัตติ โดยลดงบฯลง 10% ของกระทรวงพลังงาน โดยระบุว่า ก่อนหน้านี้ในวาระที่ 1 มีการกล่าวถึงเรื่องน้ำมัน และก๊าซแพง ค่าไฟแพง ขนส่งแพง สินค้าแพง แต่ในเอกสารงบฯ กลับระบุตัวชี้วัดที่สำคัญ คือ การตั้งราคาพลังงานยึดโยงกับรายได้ครัวเรือน ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดตั้งแต่ต้น
ส่วนราคาก๊าซคิดอ้างอิงราคาตลาด ทั้งที่ไทยมีก๊าซส่วนหนึ่งอยู่ในประเทศมีต้นทุนต่ำกว่า ขณะที่สำนักปลัดฯ ชี้แจงในรายงานการประชุมว่า จะปรับลดเงินเข้ากองทุนอนุรักษ์พลังงานจาก 10 สตางค์ เหลือ 5 สตางค์ต่อลิตร โดยไม่ให้เหตุผลประกอบและไม่ระบุระยะเวลาดำเนินการ
ขณะที่สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน ระบุในรายงานการประชุมว่าจะเปิดเสรีก๊าซธรรมชาติ โดย ปตท.เป็นผู้ดำเนินการ หากเป็นเช่นนี้จะมีกรรมการกำกับดูแลกิจการพลังงานไว้เพื่ออะไร
พร้อมตั้งคำถามว่า กมธ.ยอมรับได้อย่างไร เช่นนั้นก็ควรปรับลดงบฯ ที่สนับสนุนการทำงานของทุกคณะกรรมการที่กำกับดูแล
ด้านนายพิสิฐ ลี้อาธรรม ส.ส.ประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานกรรมาธิการ กล่าวว่า กระทรวงพลังงานได้ชี้แจงว่าพยายามส่งเสริมให้มีการใช้พลังงานทดแทนน้ำมัน โดยใช้แอลพีจีมากขึ้น แต่ตั้งข้อสังเกตว่า ไม่ค่อยมีเรื่องการใช้พลังงานแสงอาทิตย์หรือลม ขณะนี้หลายประเทศพยายามปิดโรงไฟฟ้าถ่านหินมหาอำนาจกำลังรวมตัวกันกีดกันประเทศต่าง ๆ และกีดกันทางการค้า
ส่วนกิจการของไทยหลายแห่งที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ แต่ใช้ไฟฟ้าและถ่านหินเป็นเชื้อเพลิง ก็ถูกธนาคารพาณิชย์ในยุโรปกีดกันไม่ให้กู้ จึงขอตัดงบฯ ก.พลังงาน 5% เพื่อกระตุ้นให้หันกลับมาใช้พลังงานสะอาด
อีกทั้งประเทศไทยมีแสงอาทิตย์เหลือเฟือตลอดทั้งปี แต่ปล่อยปละละเลย ไม่ได้นำพลังงานเหล่านี้มาใช้ประโยชน์ โดยเฉพาะในส่วนของกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน ซึ่งใช้งบฯ สูงที่สุดในมาตรานี้ มีการขอจัดซื้อรถบรรทุกที่ใช้น้ำมันดีเซล ทั้งที่มีรถไฟฟ้าที่สามารถซื้อได้ จึงขอตัดงบฯ ดังกล่าว และให้กระทรวงพลังงานใช้รถไฟฟ้าเท่านั้น
พบนำเข้า "น้ำมันปาล์ม" สวมสิทธิ์โดยมิชอบ
นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ คณะกรรมาธิการ (กมธ.) อภิปรายยกตัวอย่างรายการเงินอุดหนุนการชดเชยส่วนต่าง จากการรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) 100 ล้านบาท ของกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงานแผนงานยุทธศาสตร์พัฒนาความมั่นคงทางพลังงาน
ได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการน้ำมันปาล์มที่มีการนำเข้ามาโดยไม่ถูกต้อง มีการปิดบังอำพรางบางส่วน บางครั้งสวมสิทธิ์โดยมิชอบ ใช้น้ำมันจากภายนอกเข้ามาและมีการทำราคาน้ำมันปาล์มให้สูงขึ้น โดยขอให้สมาชิกสภาฯ และ กมธ.ติดตามตรวจสอบในเรื่องดังกล่าวด้วย
ตั้งงบแบบผูกพัน ไม่ช่วยประชาชน
นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ส.ส.ภูมิใจไทย อภิปรายขอตัดงบฯ ของ กระทรวงพลังงาน ลง 7% โดยพบว่า กระทรวงพลังงานมักที่จะจัดเป็นงบผูกพัน เช่น การเช่ารถประจำตำแหน่งเลขา รมว.จำนวน 1.5 ล้านบาท ซึ่งทำเป็นงบต่อเนื่องปี 2561-2565 หรือการจัดซื้อรถตู้, รถ 6 ล้อ, รถกระบะ รถบรรทุก รวมถึงโครงการพัฒนาการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานด้านพลังงานทดแทน ที่ตั้งรายจ่าย ค่าจ้างศึกษาความเหมาะสมและสำรวจเป็นงบผูกผัน โดยตั้งไว้ 14 ล้านบาท และ 19 ล้านบาท
ในหลายโครงการ ซึ่งเป็นงบผูกพัน ทำให้ กมธ.งบฯไม่สามารถตัดได้ เพราะกระทบต่อการใช้จ่ายงบประมาณต่อเนื่อง ไม่สามารถตัดได้ เพราะถ้าตัดจะส่งผลกระทบการใช้งบต่อเนื่อง ด้วยวิธีการแบบนี้ จึงไม่สงสัยว่าเหตุใดกมธ.จึงตัดได้แค่ 10 ล้านบาท และไม่เห็นว่ามีโครงการไหนเป็นโครงการเพื่อประชาชน
เสนอเปิดเสรี "พลังงาน" ให้ตอบโจทย์ยุทธศาสตร์
นายมานพ คีรีภูวดล ส.ส.ก้าวไกล อภิปรายเกี่ยวกับเรื่องพลังงานไฟฟ้า ระบุมีความเหลื่อมล้ำในการใช้พลังงานในแต่ละพื้นที่ เสนอทำนโยบายเปิดเสรีเรื่องพลังงาน เพื่อให้ตอบโจทย์ยุทธศาสตร์ของกระทรวงพลังงานที่มีแผนตั้งแต่ปี 61 - 80 โดยเฉพาะพลังงานทดแทน และการอนุรักษ์พลังงาน
ให้เหตุผลตัดลดงบฯลง 10% ว่า จากการตรวจสอบในแผนงาน พบว่า ส่วนใหญ่มุ่งเน้นไปสู่เอกชนรายใหญ่ และมีเงื่อนไขที่คนกลุ่มเล็ก รวมถึงองค์กรท้องถิ่นไม่สามารถเข้าไปแข่งขันได้
นอกจากนี้ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.เพื่อไทย อภิปรายสงวนคำแปรญัตติลดงบฯ กระทรวงพลังงาน 10% ตั้งข้อสังเกตงบฯ 600-700 ล้านบาท จ้างทนายต่างชาติสู้คดีเชฟรอนฯ
อีกทั้งราคาปาล์มตกต่ำรัฐบาลสั่งแก้ปัญหาให้ กฟผ.ซื้อปาล์ม จ่ายไปแล้วเกือบ 3,000 ล้านบาท แต่โรงไฟฟ้าบางปะกงไม่สามารถผลิตได้ทันทีต้องปรับเครื่องเตาเผา
ทั้งนี้ ก่อนการประชุมสภาฯ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ประเมินกรอบเวลาการพิจารณงบประมาณปี 2565 แล้วคาดว่าจะขยายถึงวันเสาร์ที่ 21 ส.ค. ด้วยเพราะสถานการณ์ต่างจากทุกปี ที่ปีนี้มีเคอร์ฟิว ทำให้การประชุมเสร็จสิ้นราว 20.00 น. ต่างจากทุกปีเลิกประชุมหลังเที่ยงคืน