วันนี้ (6 ก.ย.2564) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ช่วงเย็นวันนี้ มีการนัดหมายของกลุ่มนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ จัดกิจกรรมคาร์ม็อบ จากแยกราชประสงค์ ไปยังแยกอโศก และกลุ่มที่ใช้ชื่อว่า "ทะลุแก๊ส" นัดหมายชุมนุมบริเวณแยกดินแดง โดยเตือนว่าการชุมนุมในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ยังเป็นการกระทำผิดกฎหมาย
ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่ากลุ่มผู้ที่ก่อความวุ่นวายบริเวณแยกดินแดง ทราบข้อจำกัดของตำรวจ ที่จะไม่เข้าไปติดตามจับกุมบริเวณที่พักอาศัย ชุมชนแฟลตดินแดง จึงมีการใช้ชุมชนเป็นเกราะกำบัง หรือแฝงตัวเป็นคนในแฟลตดินแดง เพื่อทำร้ายเจ้าหน้าที่ และสร้างความเข้าใจผิดระหว่างผู้อาศัยในชุมชนและตำรวจ
สน.ดินแดง เร่งหารือผู้นำชุมขนแฟลตดินแดง
ตำรวจนครบาลดินแดง จึงได้เข้าร่วมหารือกับผู้นำชุมนุมแฟลตดินแดงแล้ว เพื่อป้องกันและหาทางแก้ไขปัญหาดังกล่าว รวมถึงพบว่ากลุ่มผู้ที่ก่อความวุ่นวายบางส่วน มีการแต่งกายคล้ายบุคลากรทางการแพทย์ หรือสื่อมวลชน แฝงตัวเข้าร่วมชุมนุมด้วย จึงขอให้ทั้งอาสาสมัครทางการแพทย์และสื่อมวลชนที่แท้จริง แยกบุคคลเหล่านี้ออกจากกลุ่ม เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดขึ้น
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า การชุมนุม เมื่อวันที่ 5 ก.ย.ที่ผ่านมา ในส่วนของการจัดกิจกรรมของกลุ่มนายณัฐวุฒิ บริเวณแยกอโศก ไม่มีเหตุการณ์รุนแรง แต่การชุมนุมของกลุ่มวัยรุ่น บริเวณแยกดินแดง พบมีการขว้างปาสิ่งของ พลุ ประทัด ระเบิดปิงปอง ระเบิดแสวงเครื่อง และจุดไฟเผาทรัพย์สินของทางราชการและเอกชน รวมถึงการลอบทำร้ายเจ้าหน้าที่และประชาชน
ปฏิเสธข่าวทำร้ายผู้ต้องหา-จับผู้กระทำผิด 3 คน
โดยตำรวจสามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ 3 คน ในความผิดฐานฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ พ.ร.บ.ควบคุมโรคฯ และสมคบกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง อย่างไรก็ตาม ยังพบว่ามีการบิดเบือนข่าวว่า 1 ใน 3 ผู้ต้องหาที่รถล้ม และถูกตำรวจคุมตัวได้ โดยบิดเบือนว่าถูกตำรวจทำร้ายร่างกายนั้น ไม่เป็นความจริง ผู้ที่บิดเบือน หรือเผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จ อาจได้รับโทษตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ
ทั้งนี้ ในช่วงเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ถึงปัจจุบัน มีคดีเกี่ยวกับการชุมนุม 177 คดี มีผู้ที่อยู่ในข่ายถูกดำเนินคดี 663 คน จับได้แล้ว 406 คน ขณะที่ภาพรวมตั้งแต่เดือน ก.ค.2563 มีจำนวนคดีทั้งสิ้น 421 คดี สอบแล้วเสร็จ 200 คดี อยู่ระหว่างการสอบสวน 221 คดี โดยมีการออกหมายเรียกแล้ว 160 หมาย และเตือนว่าผู้ต้องหาที่เป็นเด็กและเยาวชน หากพบว่าพ่อแม่ผู้ปกครองปล่อยปละละเลยให้มีการกระทำผิดกฎหมาย จะต้องมีส่วนรับผิดชอบ ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กฯ ด้วย