วันนี้ (8 ก.ย.2564) นายขุนพล นิลพันธ์ ประธานกลุ่มชาวนาเกลือบ้านแหลม จ.เพชรบุรี เปิดเผยว่า ราคาเกลือสมุทรกำลังประสบปัญหาราคาตกต่ำ ราคาขายในตลาดเหลือเพียง กิโลกรัมละ 30-40 สตางค์ ซึ่งไม่คุ้มต้นทุนการผลิต กว่าจะได้ผลผลิตเกลือสมุทร มาขายตามท้องตลาด ต้องผ่านกรรมวิธีหลายขั้นตอน
เป็นอาชีพที่ใช้กำลังคนค่อนข้างมาก ทำให้เสียต้นทุนกับค่าแรงงานสมควร แต่รายรับจากการขาย แทบไม่เพียงพอกับหนี้สิน
ปัญหาราคาเกลือสมุทรตกต่ำ ยืดเยื้อมานานหลายปี ทำให้ชาวนาเกลือในจังหวัดเพชรบุรีเกือบ 700 คน ในพื้นที่กว่า 2 หมื่นไร่ กำลังประสบปัญหาหนัก ราคาเกลือสมุทรปัจจุบัน จำหน่ายในราคากิโลกรัมละ 30-40 สตางค์
แต่กลับมีต้นทุนการผลิตมากถึงกิโลกรัมละ 60-80 สตางค์ กลายเป็นที่มาของข้อเรียกร้องให้รัฐบาลประกันราคาเกลือ เช่นเดียวกับพืชผลทางการเกษตร โดยกำหนดราคาประกัน 1.50 บาทต่อกิโลกรัม เพื่อให้ชาวนาเกลืออยู่รอด
นายคทาวุธ บุญมา ประธานสหกรณ์การเกษตรเกลือทะเลไทย จ.เพชรบุรี กล่าวว่า แม้จะรู้ว่าสาเหตุหลักที่ทำให้ราคาเกลือสมุทรตกต่ำ เกิดจากสายการผลิตภาคอุตสาหกรรม หลายแห่งได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
ทำให้การใช้เกลือในภาคอุตสาหกรรมต้องหยุดชะงัก รวมทั้งภาคประมงที่ใช้เกลือหมักปลาลดจำนวนลง แต่วิถีชีวิตของชาวนาเกลือจะต้องอยู่ต่อ จึงเรียกร้องให้ภาครัฐช่วยเหลือประกันราคาเกลือสมุทรให้สูงขึ้น เพราะหากได้รับผลกระทบจากราคาตกต่ำต่อเนื่อง อาชีพนาเกลืออาจสูญหายจากชุมชน
ทั้งนี้ ข้อมูลของสหกรณ์การเกษตรเกลือทะเลไทย จ.เพชรบุรี เปิดเผยสต็อกพบมีเกลือที่ค้างอยู่จำนวนมาก เกลือขาว มีมากกว่า 25,000 ตัน เกลือกลางมี 100,000 ตัน เกลือดำมี 35,000 ตัน และดอกเกลือมี 5,000 ตัน
เกลือขาว เป็นเกลือที่บริโภคทั่วไปในบ้าน แต่ที่ใช้มากสุดในภาคประมงและธุรกิจถนอมอาหารคือ เกลือกลาง ใช้สำหรับดองและหมักต่าง ๆ
เบื้องต้นไทยพีบีเอสสอบถามถึงมาตรการช่วยเหลือเบื้องต้น ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรหรือ ธกส. ระบุยังไม่มีมาตรการที่ช่วยเหลือเฉพาะผู้ที่ทำนาเกลือ แต่หากเป็นลูกค้าเดิมทั่วไป อาจใช้ยื่นขอพักหนี้จากสถานการณ์โควิด-19 ได้