หลังจากเปิดตัวโครงการ "หัวหินรีชาร์จ" อย่างเป็นทางการไปแล้ว ต่อจากนี้ก็รอลุ้นว่า ศบค.จะว่าอย่างไร จะเปิดเมืองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาในวันที่ 1 ต.ค. หรือจะขยับออกไปก่อนอีก 1-2 เดือน
แต่ในระหว่างรอคำตอบ นายอุดม ศรีมหาโชตะ อุปนายกสมาคมโรงแรมไทย ที่ปรึกษาสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวหัวหิน-ชะอำ ให้ข้อมูลกับไทยพีบีเอสออนไลน์ว่า ตั้งแต่คลายล็อกวันที่ 1 ก.ย.เป็นต้นมา ที่หัวหินมีคนไทยเริ่มเข้ามาเที่ยวแล้ว
ขณะที่โรงแรมและคอนโดมิเนียมต่าง ๆ ในพื้นที่หัวหิน-ชะอำ ก็จัดโปรโมชั่นลดราคาห้องพักลงมาในราคาหลักพันต้น ๆ รวมถึงร้านอาหารก็เริ่มทยอยเปิดค้าขาย เพราะนั่งในร้านได้แล้ว
สัปดาห์นี้คนไทยน่าจะเข้ามาเยอะ โรงแรม 5 ดาว ทำแพคเก็จราคาพิเศษ 1,800 บาท บางโรงแรมลดค่าห้องเหลือ 1,900 บาท แถมส่วนลดค่าอาหารอีก 700 บาท
คนไทยนิยมเที่ยวหัวหิน เดือน ต.ค.
ปกติทุกๆ ปี คนไทยจะเข้ามาเที่ยวหินหัว-ชะอำ ในเดือน ต.ค. เพราะเป็นช่วงปิดเทอม สะดวกมาพักค้างคืนหลายวัน เรียกว่าเป็นไฮซีซั่นของคนไทยก็ได้ ขณะที่สัดส่วนนักท่องเที่ยวของหัวหินเป็นคนไทย 75% ชาวต่างชาติ 25%
นายอุดม ระบุว่า ด้วยเหตุนี้จึงยังไม่เห็นด้วยกับโครงการ "หัวหินรีชาร์จ" ที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในวันที่ 1 ต.ค.2564 เพราะช่วงนี้เป็นตลาดของคนไทย ถ้าเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ คนไทยจะหยุดชะงักไม่เข้ามาในพื้นที่
เพราะโครงการหัวหินรีชาร์จ จะมีมาตรการเข้า-ออกเมืองที่เข้มงวด มีด่านตรวจที่เข้มข้น คัดกรองนักท่องเที่ยวที่เข้าพื้นที่มากกว่าปกติ ต้องแสดงใบรับรองการรับวัคซีนครบตามกำหนด ,ต้องมีผลตรวจ RT PCR หรือ ATK ซึ่งจะทำให้นักท่องเที่ยวคนไทยมีค่าใช่จ่ายเพิ่มขึ้น ,ต้องดาวน์โหลดและติดตั้งแอปพลิเคชัน “หมอชนะ” และยินยอมเปิดแชร์ตำแหน่งที่ตั้ง (Location) ตลอดระยะเวลาที่อยู่ในจังหวัด
คิดว่าน่าจะมีด่านบล็อกทุกทางเข้า-ออก ของพื้นที่หัวหิน เมื่อมีกติกาเยอะ คนไทยก็จะไม่อยากเข้ามา เขาอาจจะเลือกไปเที่ยวจังหวัดอื่น ที่ไม่มีมาตรการเข้มข้นแทน
นักท่องเที่ยวคนไทยจะน้อยลงในเดือน ธ.ค. จึงเป็นช่วงเวลาที่ดี ถ้าโครงการหัวหินรีชาร์จ จะขยับมารับนักท่องเที่ยวต่างชาติในช่วงนี้ เพราะลูกค้าประจำของหัวหินคือ ชาวต่างชาติในประเทศเยอรมนี อังกฤษ สแกนดิเนเวีย ฝรั่งเศส และสวิตเซอร์แลนด์ ที่หนีความหนาวเย็นเข้ามากลางเดือน พ.ย. เป็นต้นไป
คาดคนไทยสร้างรายได้หัวหิน 1,000 ล้านบาท
เมื่อถามถึงรายได้ที่หัวหิน-ชะอำ จะได้รับจากนักท่องเที่ยวคนไทย นายอุดม กล่าวว่า หากโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ระยะที่ 3 และโครงการทัวร์เที่ยวไทย อนุมัติทันในเดือน ต.ค.นี้ คาดว่าน่าจะสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว เดือนละประมาณ 1,000 ล้านบาทได้ ซึ่งมีโอกาสเป็นไปได้มากกว่าโครงการหัวหินรีชาร์จ ที่ตั้งเป้าสร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 1,200 ล้านบาทในระยะเวลา 3 เดือน
ข้อมูลของ ก.การท่องเที่ยวฯ พบว่าค่าใช้จ่ายต่อคนต่อวัน ของชาวต่างชาติอยู่ที่ 3,979 บาท จะให้หัวหินรีชาร์จได้รายได้ตามเป้า ต้องมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดือนละ 7,300 คน และต้องอยู่นานถึง 14 วันเป็นอย่างต่ำ
อย่างไรก็ตาม นายอุดม กล่าวว่า การเปิดพื้นที่ท่องเที่ยวหัวหิน-ชะอำ ต้องทำควบคู่กันไป ไม่ควรแยกกัน เพราะนอกจากพื้นที่จะติดกันแล้ว นักท่องเที่ยวคนไทยนิยมเที่ยวคาบเกี่ยว หลายคนเลือกพักที่ชะอำ เพราะค่าโรงแรมจับต้องได้มากกว่าหัวหิน แล้วขับรถไปเที่ยวคาเฟ่ ไปร้านอาหารในหัวหิน เพราะระยะทางห่างกันไม่มาก
หากเป็นไปได้โครงการหัวหินรีชาร์จ ควรเปิดให้ครอบคลุมพื้นที่ 2 จังหวัด เพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์ รวมถึงควรเปิดในช่วงเวลาที่ทุกคนได้รับวัคซีน 2 เข็มมากกว่า 80 % หรือ 100 % ทั้งนักท่องเที่ยว ผู้ประกอบการ พนักงาน และคนในพื้นที่
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
เที่ยว "หัวหินรีชาร์จ" ต้องฉีดวัคซีนครบโดส - พักหัวหิน 14 คืน - ตรวจโควิด 3 ครั้ง