คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติรับเรื่องไว้ไต่สวนข้อเท็จจริง ตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคม 2563 เพราะมีทั้งพยานและหลักฐาน และเมื่อปรากฏภาพผ่านสื่อ จเรตำรวจแห่งชาติ ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง แต่ปรากฏว่า
หนังสือร้องเรียนจากตำรวจในกองบิน
1.สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังไม่มีคำสั่งให้ ผู้ที่มีภาพตามข่าว ต้องย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ (ซึ่งปกติจะมีคำสั่งให้ข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่มีประเด็นถูกสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงต้องไปปฏิบัติหน้าที่ที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติก่อน) เพื่อให้คณะกรรมการฯ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติแต่งตั้ง เกิดความคล่องตัวในการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงจากพยานบุคคล หรือจากพยานเอกสาร แต่ขณะนี้กลับปล่อยให้ปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่กองบินตำรวจ ข้าราชการตำรวจ จึงไม่มีใครกล้ามาเป็นพยาน เพราะกำลังถูกกดดัน และข่มขู่
2.โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชี้แจงกรณีการตั้งคณะกรรมการสอบสวน หน่วยงานที่สามารถกระทำได้คือ สำนักงานจเรตำรวจ ส่วนกองบินตำรวจ ไม่สามารถตั้งคณะกรรมการสืบสวน สอบสวนข้อเท็จจริงได้ แต่ปรากฏคำสั่งให้ ผู้ที่ถูกกล่าวหา เป็นผู้ออกคำสั่งตั้งกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริงที่ตัวเองถูกกล่าวหา ทำให้ตำรวจในกองบินตำรวจไม่มั่นใจผลการสอบสวน
โดยเฉพาะในประเด็น “การเดินทางไปราชการต่างประเทศ เพื่อฝึกอบรมการบิน เมื่อเดือน ต.ค.2559- พ.ย.2559 แต่ระหว่างการฝึกอบรม กลับพบการขาดฝึกอบรม 12 วัน และเดินทางกลับไทย มีหลักฐานโอนเงินเข้าบัญชี เพื่อเบิกเงินในช่วงวันที่ขาดการฝึกอบรม จำนวน 69,000 บาท (ค่าที่พัก 2,258 / เบี้ยเลี้ยง 3,100 บาท/วัน ค่าพาหนะ 430 บาท/วัน ทั้ง ๆ ที่ ไม่มีสิทธิเบิกค่าใช้จ่าย และเป็นการขาดราชการ 12 วัน ในช่วงฝึกอบรม) ทั้งนี้ผู้ถูกกล่าวหา เป็นหัวหน้างาน และมีชั้นยศสูง ในกองบินตำรวจ จึงไม่สามารถตั้งคณะกรรมการฯ ที่มียศต่ำกว่าในสังกัดกองบินตำรวจ มาดำเนินการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงได้ (มีภาพเอกสารคำสั่ง)
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
เพจดังทวงถาม ร้องเรียนเครื่องบินตำรวจขนเหล้าเถื่อนไม่คืบ
โฆษก ป.ป.ช. ยันคดีเครื่องบินตำรวจขนเหล้าเถื่อน คืบหน้า ไม่ล่าช้า
3.ในกองบินตำรวจ เกิดความแตกแยก ทนต่อการบังคับขืนใจการปฏิบัติหน้าที่ และอดทนต่อพฤติกรรมไม่ได้ ตัดสินใจยื่นใบลาออกก่อนเวลาเกษียณอายุราชการหลายนาย เช่น พ.ต.อ.ชโยดม รักยงค์ นักบิน (สบ 5) กลุ่มงานการบิน กองบินตำรวจ , พ.ต.อ.วิทยา เอิบกมล ช่างอากาศยาน (สบ 5) กลุ่มงานผู้เชี่ยวชาญช่างอากาศยาน กองบินตำรวจ, พ.ต.อ.สุภาพ เทียมวิสัย ผู้กำกับการช่างอากาศยาน กองบินตำรวจ , พ.ต.ต.ยงยุทธ พักพำนัก ช่างอากาศยาน (สบ 2) กลุ่มงานช่างอากาศยาน กองบินตำรวจ)
4.นักบินและช่างอากาศยาน ถูกคำสั่งให้ย้ายปฏิบัติหน้าที่ จากหน่วยบินตำรวจจังหวัดขอนแก่น เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ในส่วนกลาง กองบินตำรวจ (กทม.) โดยไม่มีความผิด
5.กรณีเครื่องบินปีกติด แบบ FALCON 2000 ที่เป็นประเด็นข่าวขนเหล้า-เบียร์ หนีภาษี ผู้ถูกกล่าวหา อ้างต่อผู้บังคับบัญชาระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่า ที่ใช้เครื่องบินปีกติด แบบ FALCON รุ่น 2000 หมายเลข 33742 สำหรับเดินทางไปราชการ ว่า และเป็นนักบินที่ 1 เพียงคนเดียว ที่มีความรู้ความสามารถทำการบิน
แต่ข้อเท็จจริง มีนักบิน อีก 4 นาย เคยผ่านการฝึกอบรมภาคพื้นและภาคอากาศจากครูการบินของบริษัทผู้ผลิต เป็นผู้มีความรู้ความสามารถ และความชำนาญในการบินกับเครื่องบินปีกติดแบบ FALCON รุ่น 2000 เช่นเดียวกัน แต่นักบินกลับถูกกีดกัน ไม่ให้ทำการบินกับเครื่องบินปีกติดแบบ FALCON รุ่น 2000
ที่มาของเรื่อง
- มีภาพหลักฐาน การใช้เครื่องบินตำรวจ ขนส่งเหล้า- เบียร์ หนีภาษี
ข้อเท็จจริง : จากการตรวจสอบของ ป.ป.ช. พบว่า เป็นการใช้เครื่องบินตำรวจจริง ด้วยเครื่องบิน แบบคาซ่า รุ่น CN235 -220 M หมายเลข 28064 และเครื่องบินแบบ FALCON รุ่น 2000 หมายเลข 33742 กองบินตำรวจ เพื่อเก็บชั่วโมงบิน
กลับพบขณะทำการบิน ไปที่ อ.หาดใหญ่ สงขลา ได้ขนส่งเหล้า-เบียร์ หลีกเลี่ยงภาษี นำมาจากด่านนอก อ.สะเดา เพื่อขนถ่ายสุราขึ้นเครื่องบินทั้งแบบคาซ่า และแบบ FALCON รุ่น 2000 จำนวนหลายครั้ง (มีภาพหลักฐาน) และให้ตำรวจที่ร่วมไปทำการบิน ช่วยกันขนถ่ายสินค้า โดยมีรถยนต์ตู้ของตำรวจลำเลียงเข้าไปที่เครื่องบิน โดยใช้พื้นที่สนามบินราชการทหาร ไม่ใช่พื้นที่ของสนามบินพาณิชย์ (การท่าอากาศยานหาดใหญ่) การขนย้าย เกิดขึ้นหลายครั้ง แต่ละครั้งมีจำนวน สินค้า ประมาณ 20-30 ลัง
ข้อมูลภาพ : ภาพชุดลำเลียงสินค้า / เอกสาร การไต่สวน ป.ป.ช. / เอกสารตั้งกรรมสอบสวน ของ สตช.
สุดท้าย ผลการตรวจสอบ ของกองบังคับการกองบินตำรวจ ระบุว่า เรื่องการขาดราชการ และเบิกเงิน เป็นเพียงการบกพร่อง และไม่มีความรอบคอบ สวนทางข้อเท็จจริงการไต่สวน ป.ป.ช.