วันนี้ (23 ก.ย.2564) พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ยอมรับจำเป็นต้องประเมินสถานการณ์ให้แม่นยำกว่านี้ หลังพบว่ามีผู้ก่อเหตุตระเวนเผาป้อมจราจรหลายจุดในกรุงเทพฯ เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา โดยการก่อเหตุมีการกระจายตัวยกระดับความรุนแรง โดยตำรวจต้องปรับยุทธวิธีการใช้กำลัง การบังคับใช้กฎหมาย และเรื่องการข่าว
ทั้งนี้ การก่อเหตุลักษณะนี้ ไม่ใช่อาชญากรทั่วไป โดยพบว่าตั้งแต่เดือน ส.ค.ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน มีการจับกุมผู้ก่อเหตุกว่า 400 คน และทุกครั้งที่จับผู้ก่อเหตุได้ จะเห็นว่า มีทีมกฎหมายคอยประสานในการช่วยเหลือให้ความรู้ทางกฎหมายตลอด 24 ชั่วโมง จึงให้ฝ่ายสอบสวนให้ตรวจสอบความผิดอื่นๆ เช่น อั้งยี่ ซ่องโจร โดยให้ไปรวบรวมพยานหลักฐานมา หากพบว่าเป็นการกระทำที่เข้าข่ายองค์ประกอบกฎหมายนั้นๆ
ทั้งนี้ เชื่อว่าผู้ก่อเหตุครั้งนี้ ต้องการให้เกิดความวุ่นวาย กระทบต่อภาพลักษณ์ในเรื่องรักษาความปลอดภัย ความมั่นคง กระทบกระเทือนต่อความรู้สึกประชาชน และหวังผลทางการเมือง โดยตำรวจจะพยายามดำเนินการให้เกิดความสงบเรียบร้อยให้ได้
บช.น.จ่อยกระดับคุมเหตุชุมนุมย่านดินแดง
ด้าน พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ฐานะโฆษก บช.น.กล่าวถึงการก่อความไม่สงบของมวลชนบางกลุ่มบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง เมื่อคืนที่ผ่านมาว่า ตั้งแต่เวลาประมาณ 18.00 น. พบมีการก่อเหตุเผายางรถ และรถจักรยานยนต์ มากีดขวางการจราจร ทำลายสิ่งของ ซึ่งเป็นทรัพย์สินของเอกชน และส่วนราชการ เช่น สถาบันการศึกษา ได้รับความเสียหาย รวมทั้งขว้างปาประทัดระเบิดต่อเนื่อง กระทั่งช่วงดึก กลุ่มผู้มวลชนได้เคลื่อนตัวออกจากแยกดินแดง และกระจายไปตามทั่วพื้นที่กรุงเทพฯ และพบก่อเหตุเผาป้อมจราจร 6 จุด ในท้องที่ สน.บางซื่อ สน.ลุมพินี สน.พญาไท และ สน.มักกะสัน
ขณะนี้ตำรวจฝ่ายสืบสวน อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีผู้กระทำผิด และแจ้งข้อหาสมคบกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ก่อเหตุวุ่นวายในบ้านเมือง วางเพลิงเผาทรัพย์ฯ ทำให้เสียทรัพย์ และฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.ควบคุมโรค นอกจากนี้ ยังดำเนินคดีกับแอดมินเพจที่ใช้ชื่อว่า แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม เนื่องจากพบมีการชักชวนให้ออกมาร่วมชุมนุม เมื่อช่วงเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา จำนวน 2 คน ตามข้อหาตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และความผิดมาตรา 116
ดำเนินคดีชุมนุม 220 คดี จับกุมแล้ว 563 คน
สำหรับการดำเนินคดีกลุ่มผู้ชุมนุม เดือน ก.ค.2564 มีทั้งสิ้น 220 คดี อยู่ระหว่างควบคุมติดตามดำเนินคดี 808 คน และควบคุมตัวดำเนินคดีได้แล้ว 563 คน ส่วนที่เหลือกำลังพิสูจน์ทราบตัวบุคคล
ด้าน พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยถึงแนวทางการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชน มีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยน การควบคุมสถานการณ์โดยยกระดับการเข้าควบคุมผู้ก่อเหตุ เนื่องจากผู้ก่อเหตุเริ่มทำลายทรัพย์สินของสาธารณะมากขึ้น เมื่อก่อเหตุ ก็มักหลบหนีเข้าพื้นที่แหล่งชุมชน แต่ตอนนี้ได้รับความร่วมจากประชาชนย่านดินแดงมากขึ้น ทำให้สามารถแยกระหว่างผู้ชุมนุม กับประชาชนในพื้นที่ได้ง่ายขึ้น ส่วนป้อมจราจรที่ถูกเผา ไม่ส่งผลต่อการบริหารงานจราจร เนื่องจากมีตำรวจปฏิบัติหน้าที่อยู่แล้ว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
พฐ.เร่งแกะรอยมือ "เผาป้อมจราจร" 5 จุดทั่วกรุง
สหรัฐฯ อนุมัติฉีดไฟเซอร์เข็ม 3 ในกลุ่มเสี่ยง-ผู้สูงอายุ
"สุดารัตน์" เข้าพบ"แทมมี่" หาความร่วมมือสนับสนุนวัคซีน mRNA ให้ไทยเพิ่ม